รีวิว A Monster Calls หนังดราม่าที่จะพาไปหาปีศาจที่ซ่อนอยู่ในใจเราทุกคน

ช่วงนี้อยากดูหนังดีดีสักเรื่องหนึ่ง แบบไปดูคนเดียวก็ได้ แต่ไม่รู้จะดูเรื่องอะไร เรื่องล่าสุดคือ
– Docter Strange ก็เฉยๆมาก ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร
แต่สาวก Marvel นี่อวยกันกระเจิดกระเจิง และแน่นอนว่าทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
– Fantastic beasts เข้าทุกโรงแบบกินทุกตารางรอบฉาย
ซึ่งเราไม่อยากดู ชอบแฮรี่นะ แต่ไว้ค่อยดูตามทีหลังละกัน
– Your name ดูแล้วโอเคนะ แต่ไม่ได้ชอบมาก
ชอบตรงภาพสวยจริงตามคำร่ำลือ แต่ไม่ได้ดึงดูดใจพอให้มาเขียนรีวิวลงบล็อก

 

เหตุผลที่เลือกไปดู A Monster calls
เพราะนั่งอ่าน HashTag ใน Twitter แล้วมีแต่คำวิจารณ์ในแง่ดี ชื่นชมกันเยอะ
แอคเค้าท์ของ  ใน 10/10 แบบ หูวจริงเหรอนิ

 

หนังสร้างมาจากนวนิยายเยาวชนที่ขายดี แถมทีมเทคนิคพิเศษยังใช้ทีมจากหนัง Avatar อีกด้วย
ทำให้พวก CG เนียนกริบมากจริง อันนี้ก็ชื่นเลยว่าสมคำร่ำลือหลังจากดูเสร็จ
(หนังลงทุนด้านเทคนิคไป 43 เหรียญสหรัฐแน่ะ เยอะไปแมะ?)

รีวิวหนัง a monster calls

 

หนังเริ่มต้นเล่าว่า

“A boy too old to be a kid, too young to be a man”
“กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่โตเกินจะเป็นเด็ก แต่ก็เด็กเกินที่จะเป็นผู้ใหญ่”

รีวิวหนัง a monster calls

น้องผู้ชายในเรื่องชื่อ Conor (Lewis MacDougall) เด็กอายุ 13
เป็นวัย Coming of Age อย่างแท้จริง อาศัยอยู่กับแม่ 2 คนในบ้าน
ซึ่งแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ดูตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าแม่ป่วยเป็นโรคอะไรนะ
คิดว่าคงแค่โรคประจำตัวที่ต้องทานยาบ่อยๆ
ทำให้ลูกชายต้องทำหน้าที่เกินเด็กด้วยตัวเองหลายๆอย่าง เช่น งานบ้าน

พอไปโรงเรียนน้อง Conor ก็โดนเพื่อนแกล้ง loser สุดๆ
เป็นเด็กหลังห้องไม่มีใครสนใจ มนุษย์ล่องหนดีดีนี่เอง
มัดโดนรุมเตะต่อยหลังเลิกเรียน คือน้องไม่หยิ่มนะ แต่ก็ไม่สู้
บุคลิกออกแนววงเวียนชีวิต อมทุกข์ พอจะนอนก็ดันฝันร้าย โธ่
ขอบตาน้องนี่ดำเชียว อดหลับอดนอนเบอร์สุด
แต่ดูออกว่าน้องเข้มแข็งมาก เพราะแม่ก็ป่วย จะมาอ่อนแอไม่ได้ เป็นผู้ชายต้องสู้!!

 

ถามว่าแล้วพ่อไปไหน?

 

พ่ออยู่เมกากับครอบครัวใหม่ หน้าพ่อโคตรแขกตะวันออกกลางเลย
ด้วยความที่อาการของแม่ทรุดลงหนักเรื่อยๆ กำเริบแย่ลงไม่ค่อยดีละ
ทำให้ยายต้องมาดูแล แต่ Connor ดันไม่โอเคกับยาย ทำไมถึงไม่โอเคก็ไม่รู้อะ ตึงๆกัน
ยายเจ้าระเบียบมั้ง เจ้ากี้เจ้าการ ยายก็บอกว่าต้องย้ายไปอยู่กับบ้านยายนะ
จะมาอยู่แบบนี้ไม่ได้น้องยังเด็กไป
ที่จะต้องมารับภาระดูแลรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง
แต่มันก็เถียงแหละว่า
“ผมอยู่ได้ฮะ ยายไม่ต้องมายุ่ง” (อันนี้ฟางเล่าให้ฟังเอง5555)

ฟังดูตัวละครไม่ค่อยเยอะ จริงๆก็มีแค่เนี้ยะแหละ
ที่เป็นกิมมิคก็จะเป็นตัว Monster จากต้นยิวโบราณ อายุเป็นพันปี
ที่ทุกๆเที่ยงคืนเจ็ดนาที 12.07 ก็จะออกมาเข้าฝัน Cornor
แล้วก็เล่านิทานให้ฟัง คืนละเรื่อง แต่ละเรื่องก็จะมีคติสอนใจ ให้ข้อคิดอะไรบางอย่าง

rerere

หนังให้ความรู้สึกเย็นๆจินตนาการและล้ำสุดๆ แฝงปรัชญาลึกซึ้งมาก
ดราม่าทั้งเรื่องอะ ว่าชีวิตมันช่างโหดร้ายกับเราทุกคน
ทุกคนมี Monster ในใจตัวเองกันคนละตัว 2 ตัวอยู่แล้ว
ขึ้นอยู่กับว่าจะเลี้ยงและควบคุมไม่ให้มันออก หรือระเบิดออกมาข้างนอกให้คนอื่นรู้  
ในหนังมีปรัชญาที่นิทานบอกเเละซ่อนความจริงอันเจ็บปวด
ทรมานเเละปวดร้าว มันดาร์คมาก ยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่คาดคิดว่าจะดู เเต่ไปดูไม่คิดว่ามันจะดี

 

รีวิวหนัง a monster calls

คือถ้าทุกคนเดาก็รู้แหละว่า สุดท้ายเนื้อเรื่องมันจะจบยังไงช้ะมะ
แต่ระหว่างทางที่มันจะตัดจบ เรื่องที่ตัวเอกต้องเผชิญมาตลอดทั้งเรื่อง
บวกความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกนี่มันละเอียดอ่อน ซาบซึ้ง
ถ้าคนไม่อิน อาจจะมีบางช่วงที่เบื่อๆบ้าง ยอมรับว่าเนื่อยและเนิบในการเล่าเรื่องมาก
แต่ถ้าอินกับความสัมพันธ์ครอบครัวเสียน้ำตาแน่นวลลลลล เพราะมันสะเทือนอารมณ์มาก
คนข้างๆเราที่ไปดูด้วยบอกว่าร้องไห้ไปหลายตอนเลย #โอ๋ๆนะ
(ยังไงก็ขอบคุณมากที่ไปดูด้วย ไม่รู้เธอจะแอบเข้ามาอ่านไหม แฮร่..แต่เธอเก่งมาก)  ?

รีวิวหนัง a monster calls

 

Quotes จากหนังที่หลายคนชอบก็จะมี  ฉากตอนแม่พูด
“แม่ขอให้แม่ได้เวลาสักร้อยปี ร้อยปีที่แม่จะให้ลูกได้”
แต่ฉากที่เราชอบ ก็ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาล
น่าจะโมเม้นท์เกือบจะสุดท้ายของชีวิตที่ลูกกับแม่ได้อยู่ด้วย
คือ Cornor มันหงุดหงิดมากถ้าไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ได้แต่รอๆๆๆ อยู่ในบ้านยาย คาดหวังว่าแม่จะต้องดีขึ้น จะต้องหาย
จนน้องพังห้องนั่งเล่นกระจาย ยับเยิน เฟอร์นิเจอร์แทบจะแหลกละเอียด5555
เป็นฉากเดียวที่เหมือนจะขำในความไม่มีเหตุผลของตัวละครนะ
แต่ถ้าวิเคราะห์ดีๆแม่งสงสารน้องมากอะ

rerer
พอได้ไปเจอแม่ที่โรงพยาบาล สภาพก็เริ่มห่อเหี่ยวสุดๆ
ยอมใจทีมแต่งหน้าหน้าแสดงฉากนี้เลย
คือแม่ที่นำแสดงโดย Felicity Jones
คือเล่นดีมากอะ ประทับใจบทพูดฉากนี้ จำได้ไม่หมด แต่ประมาณว่า

 

Cornor ก็ถามว่า “แม่เป็นไงบ้างฮะ”
แม่ก็บอกว่า “ยาตัวใหม่ที่หมอใช้รักษามันใช้ไม่ได้ผล
แถมอาการยังส่อแววแย่ลงอีกด้วย แต่ลูกไม่ต้องกังวลหรือคิดมากอะไรนะ
มันยังมีทางยาตัวนึงที่สกัดจากต้นยิวมารักษาได้อีก …”

น้อง Cornor มันก็ไม่ค่อยอยากจะพูดไรแล้ว  “มีอะไรบอกผมได้นะ”
แล้วสีหน้าก็เริ่มไม่ดีและ ไม่สบตาแม่
และแม่พูดอีกว่า “แม่รู้ว่าลูกหงุดหงิด ถ้าลูกอยากจะพังทลายข้าวของอีกกี่อย่าง
อีกกี่ชิ้น ก็พังมันเลย ถ้ามันทำให้สบายใจขึ้น แม่จะคอยดูอยู่ตรงนั้นเสมอ
อยู่ข้างๆลูก ไม่ผิดถ้าลูกจะโกรธ เพราะแม่ก็โกรธตัวเองเหมือนกัน
แต่ถ้าวันนึงลูกย้อนกลับมานึกถึงเหตุการณ์นะวันนี้แล้วว่าลูกไม่คุยกับแม่
ขอให้ลูกรู้ไว้ว่าแม่รักลูกเสมอ” 

กินใจ 🙂

อาจจะจำไม่ได้ 100% ใครไปดู แล้วจำได้ครบกว่านี้ช่วยกลับมาบอกด้วยจ้า แต่ชอบมากกกซีนนี้
หนังเป็นในแง่พาไปสำรวจความรู้สึกนึกคิดของเด็กที่สลับซับซ้อนไม่ต่างจากผู้ใหญ่
แต่เนื้อเรื่องมืดหม่นกว่ามาก หนังสอนให้เราเลิกหลอกตัวเองว่าจะมีปาฏิหารย์
ทั้งๆที่เรารู้ความจริงข้อนั้นดีอยู่แล้ว ต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าโลกไม่ได้มีด้านเดียว
และเราก็เหนื่อยที่จะต้องเผชิญกับมันเสียตั้งแต่ทีแรกแล้ว
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ก้าวผ่านมันมาได้ก็คือ Speaking the truth แค่นี้จริงๆ
แนะนำว่าถ้าอยากดูหนังแนวดราม่าหนักๆ แฟนตาซี ก็แนะนำเรื่องนี้เลย เอาไป 8/10

 

“If you speak the truth, the monster whispered in his ear, you will be able to face whatever comes.”
“You do not write your life with words…You write it with actions. What you think is not important. It is only important what you do.”
“There is not always a good guy. Nor is there always a bad one. Most people are somewhere in between.”
“Stories don’t always have happy endings.”

 

รีวิวหนัง a monster calls

แถมโปสเตอร์แบบไทยแลนด์แดนคนเล่นหวยมาให้ด้วย
(Cr.เพจ เฮ้ย นี่มันตัดต่อชัดๆ V2)

cybjlaqvqaaks2i

Comments

comments

fangrio Written by:

สนใจเกี่ยวกับการทำอาหาร ต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และความเป็นไปรอบตัว อยู่บ้านชอบเดินเท้าเปล่า ไม่ชอบนอนดึก แต่ตื่นไม่เช้า เป็นหัวไช้เท้าดองเลิฟเวอร์

Be First to Comment

Leave a Reply