Love Rosie หนังโรแมนติกน่ารัก ไม่เวิ่นเว้อ ดูแล้วไม่หลับ

LOVE ROSIE เป็นเรื่องของชายหนุ่ม หญิงสาวที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก
คือบ้านอยู่ละแวกใกล้ ๆ กัน วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่สมัยยังไม่รู้ว่ารักคืออะไร

รู้แแค่ว่านาง 2 คนสนิทกัน
ฝันอะไรมา ก็จะเล่าให้กันฟัง น่ารักมุ้งมิ้ง

ทีนี้แน่นอนว่า ผู้ชายกับผู้หญิงพอโตขึ้นมาเรื่อยๆ
ถ้าจะสนิทสนมกันขนาดนี้
ต้องมีฝ่ายนึงฝ่ายใดคิดเกินแล้วกันอยู่แล้ว
มันไม่มีหรอกว่า คิดแค่เพื่อน
โตมาฮอร์เพศมันก็ต้องพลุกพล่านเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
ยิ่งเอาผช.กับผญ.มาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อสอง
ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เหอะ ก็นะ (หนังไม่ได้กล่าวไว้)

จุดเริ่มต้นทั้งหมดมันเริ่มจากฉากงานปาร์ตี้วันเกิด นางเอกโรซี่ ในผับแห่งหนึ่ง
นางเมาเละะะะะะเลย เต้นกระจาย
แล้วก็จับผลัดจับพลูเผลอไปจูบกับอเล็กซ์ พระเอก ภาพสโลวโมชั่นด้วย
แต่นางเอกมันจำไรไม่ได้เลย จูบเสร็จนางก็ฟุบล้มกองกับพื้น
ตื่นมาก็แฮ้งค์ ลืมไปเลยว่าเคยจูบกับอเล็กซ์

(ฉากนี้ทำให้เราชอบเพลงประกอบมาก Crazy In Love ของเจ๊บีย่องเซ่
แทบเปิดยูทูปแล้วส่ายสะโพกเต้นตาม ไอด้อลเลยจีจี)

ทีนี้ความสัมพันธ์ก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ
ทั้งอเล็กซ์และโรซี่ต่างกันมีคนที่กุ๊กกิ๊กอยู่แล้ว
แต่ลึก ๆ แล้วในใจต่างคนต่างก็แอบหวง ๆ กันในแบบไม่แสดงออก
จนมาถึงงานพรอมโรงเรียน อเล็กซ์ปรึกษากับโรซี่ว่าอยากควง เบธานี ไปงานพรอม
เบธานีคือสาวฮอตประจำรุ่น (แต่เราว่าโรซี่สวยและแซ่บกว่าเยอะ)
ส่วนโรซี่โดน เกร็ก ชวนไปงานพรอมด้วย
(เกร็กก็อารมณ์แบบหนุ่มเพลย์บอยหน้าตาดีของโรงเรียน)

มันแซ่บตรงนี้ฉากหลังปาร์ตี้งานพรอมเกร็กกับโรซี่ก็แอบไปโจ๊ะกัน
จนเกิดเรื่องขึ้น คือถุงยางดันไปติดที่ช่องคลอดของโรซี่ -3-
และนางดันหาไม่เจอ ต้องไปนั่งแหกขาส่องอยู่ตั้งนาน
ก็ไม่เจอ จนต้องไปโรงบาลให้หมอเอาออก

เหตุการณ์ดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเบื่อ
ฉากอาคาร บ้านเรือนคือน่ารักมาก
ลืมบอกว่าคือสถานที่ทั้งหมดอยู่ประเทศอังกฤษ เมืองในฝันเลย อยากไปม้าก
ทีนี้มีอยู่วันนึงด้วยความที่ตัวละครอยู่ม.ปลายใกล้จะต่อมหาลัย
อเล็กซ์เอ่ยปากชวนโรซี่ไปเรียนต่อที่บอสตัน
โดยเขาเลือกที่จะเรียนหมอ ส่วนที่นั่นก็มีหลักสูตรการโรงแรมที่โรซี่ชอบด้วย

แต่เหมือนเหตุการณ์กำลังไปได้ด้วยดี
โรซี่ดันเกิดท้องขึ้นมาจ้า นางเดินงงๆไปร้านขายยา และก็ไปซื้อที่ตรวจครรภ์
พังจ้าพัง ความฝันที่จะไปเรียนต่อที่บอสตันพัง พังทั้งหมด
นางเลยโกหกอเล็กซ์ว่า เด๋วฉันตามไปทีหลังละกันนะ เธอไปก่อนเลย

ชอบฉากตอนกอดกันที่สนามบิน
อารมณ์ประมาณเพลง ” พบกันใหม่”
..เพราะรักนั้นเธอจะไม่ยอมแม้จะปล่อย ให้ เขากังวลแม้แต่น้อย
เจ็บเท่าไหร่ยินดีให้เขานั้นเดินไป อย่างที่ฉันกำลังที่จะทำ เย้ะ เจ็บช้ำด้วยความเต็มใจ..

จากนั้นท้องก็เริ่มป่องขึ้นเรื่อยๆ
คือครอบครัวโรซี่เป็นคาทอลิกที่เคร่ง
นางจึงไม่ทำแท้ง
และตัดสินใจว่าจะยกลูกในท้องให้กับครอบครัวบุตรธรรมที่ต้องการรับเลี้ยง
โรซี่ใช้ชีวิตไปอย่างไม่ได้สนใจไยดี เด็กในท้องเท่าไรนัก

(คือถึงจะท้อง 9 เดือนแต่หนังไม่เวิ่นเว้อพร่ำเพ้อ เล่าแบบง่ายๆกระชับ)
จนถึงคราวต้องคลอดลูก พอเห็นหน้าลูกครั้งแรก โรซี่ตกหลุมรักทันที
และบอกกับตัวเองว่า เขาจะเลี้ยงเด็กคนนนี้ด้วยตัวเอง
และตั้งชื่อให้ว่า เคธี่

เอ้อลืมบอกว่าพ่อของเด็กเคธี่คือเกร็ก แต่พอเกร็กรู้ว่าโรซี่ท้อง
เขาก็บอกว่าต้องไปเมืองนอก ทำให้โรซี่กลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

ชอบฉากตอนที่เคธี่โป๊ะเข้ามาเจอแม่ตัวเองกำลังโจ๊ะๆ
กับคุณตำรวจในห้องนอนตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน
และเมื่อคืนท่าทางจะแซ่บมาก
คือมีการล๊อคกุญแจมือไว้กับหัวเตียงด้วย แล้วเช้ามาก็ดันไขไม่ออก
เคธี่ก็ต้องรีบไปโรงเรียน 5555
สุดท้ายก็ต้องส่งเคธี่พร้อมกับหัวเตียงและถูกล๊อคกับกุญแจมือในมือโรซี่
เดินไปชนโน่นนี่กว่าจะถึงโรงเรียน ฮา

ระหว่างตัวพระเอกเองอเล็กซ์ก็มีแฟนใหม่อยู่ที่อเมริกา
เป็นสาวยุคใหม่ ขี้วีน สวยเลย
แต่ความสัมพันธ์ของเขาและโรซี่ก็ดำเนินไปด้วยดี
เพราะเคธี่ด้วยแหละ
ลึกๆแล้วอเล็กซ์ก็เอ็นดูเคธี่เหมือนลูกตัวเอง
แล้วชวนโรซี่ไปเที่ยวเมกา ด้วยกัน

มีฉากที่โรซี่จะจูบกับอเล็กซ์ด้วย แต่อเล็กซ์ไม่ให้จูบ
เพราะตอนนั้นเขาทำให้แฟนท้อง กำลังจะมีลูก
เลยคงไม่อยากจะลึกซึ้งกับนางเอก
แต่สุดท้ายแฟนอเล็กซ์ก็แท้ง และก็เลิกกัน เพราะไปกันไม่ได้

คือหนังเล่าไปเรื่อยๆ ดูแบบเพลินๆ
เป็นเรื่องราวที่แบบต่างคนต่างมีคนใหม่ สลับกันไป
ช่วงที่โรซี่ไม่มีใคร อเล็กซ์ก็มีคนอื่น
ช่วงที่อเล็กซ์เลิกกับแฟน อีเกร็กผัวเก่าโรซี่ก็กลับมาขอคืนดี

จนสุดท้าย..
เหมือนโรซี่ก็เริ่มรู้ละ คนที่จะอยู่กับนาง
และเข้าใจนางมาตลอดเลยคือใคร
(โถ่ว ความรู้สึกช้าจริงๆแม่นางเอก)

ในงานแต่งงานของอเล็กซ์
นางเลยเลือกที่จะบอกความรู้สึกในใจทั้งหมดให้ทุกคนในงานฟัง
ในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าว

แน่นอนมันกินใจอเล็กซ์
จนสุดท้ายก็ได้กัน จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ่ง ที่โรงแรมริมทะเลของโรซี่

เป็นหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวดีๆ
และแรงบันดาลใจหลายอย่างๆ ดูแล้วสดชื่น มีความสุขอะ
เป็นเรื่องราวที่ไม่เกินจริง เชื่อว่าชีวิตหลายคนก็อาจเหมือนกับตัวเองในหนัง
เสน่ห์ของหนังเรื่องนี้มีอย่างนึงที่เราชอบก็คือ
หนังจะเล่าตั้งแต่อดีต ยาวมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเก็บรายละเอียดในอดีตได้ดีอะ
แบบตอนช่วงที่ตัวละครอยู่ม.ปลาย พวกโทรศัพท์ คอมพ์ที่ใช้ ก็จะไปยุคก่อนๆ
โปรแกรม chat MSN ก็ถูกนำมาใช้ในการสื่อสารของวัยรุ่นสมัยนั้นจริงๆ
ซึ่งพระเอกกับนางเอกก็ไม่พลาด
พอเริ่มโตมา โทรศัพท์ก็เริ่มมาสีมากกขึ้น แต่ยังไม่ใช่สมาร์ทโฟน
เสน่ห์การรอแชทตอบ การส่งเมจเสซคุยกัน
ทำให้มันเกิดช่วงว่าง ให้คิดตรึกตรองก่อนจะพิมพ์ส่งอะไรไปให้กัน
ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่เราทะเลาะกับเรื่อง “อ่านแล้วไม่ตอบ” 

แนะนำให้ไปดูนะ

Comments

comments