เล่าประสบการณ์ชีวิตกว่าจะได้งาน Sap consultant ผ่านอะไรมาบ้าง

พอใกล้จะเรียบจบ ก็ต้องเริ่มหางานทำ
ทีนี้สายงานไอทีมันก็จะเยอะมาก พอเข้าปี 4 เทอม 2 ราวๆช่วงปีใหม่
โปรเจ็คอะไรก็ต่างๆ เด็กไอทีบางมดก็จะเคลียร์กันเสร็จหมดแล้ว
จะเริ่มมีงาน Job fair ของมหาลัย กับงาน Job career ของคณะ

ตอนนั้นก็คงเหมือนหลายๆคน (ใครเหมือนแก) ที่ยังไม่รู้ว่าอยากทำสายไหน อาชีพอะไร
จบไอที ไม่ได้เหมือนจบพวกพยาบาล  วิศวะ เพราะเราต้องเลือกสาย Path งานว่าอยากเติบโตไปอยู่ในสายไหนของไอที ในอนาคต ช่วงแรกๆยอมรับว่าโปรยเรซูเม่ กับทรานสคริปไปรัวๆ

ตำแหน่งที่สมัครก็จับฉ่ายมาก Programmer , Web dev , Tester , System engineer , System analyst ฯลฯ ซึ่งไม่ใช่วิธีการที่ดีเท่าไร เพราะเปลืองเรซูเม่และก็ทำให้เราเสียเวลาในการไปสอบสัมภาษณ์  แนะนำว่าควรค้นหาตัวเองให้เจอว่าที่ผ่านมาชอบเรียนวิชาอะไร และไม่ชอบเรียนวิชาอะไร หรือดูจากเกรดวิชาไหนได้ A บ้าง พวกวิชาเลือกก็สำคัญนะ ถามใจตัวเองดูเรียนแล้วชอบไหม ส่วนมากก็จะชอบนะ เพราะเลือกเองนะ ไม่ได้มีใครบังคับเว้นแต่ว่าเรียนตามเพื่อน

ส่วนมากหลักๆจะแบ่งออกไป 3 สายหลักคือ
1. สาย Developer
2. สาย Network , Infrastructure
3. สาย Business

เมื่อถามใจตัวเองแล้วว่าอยากทำสายไหน ก็ไปค้นหาว่ามีบริษัทไหนบ้าง ที่เปิดรับสมัครตำแหน่งงานที่เราสนใจ เสริชกูเกิ้ลก็ได้ ง่ายสุดคือถามรุ่นพี่ พี่สายรหัสเราเนี้ยง่ายสุด เดี๋ยวมันก็ให้คำแนะนำเรามาเอง ดีไม่ดีก็ก็ได้เป็นทำบริษัทเดียวกันยกสาย สร้างรกรากฐานกันไป
แต่เหนือสิ่งอื่นได้ เลือกงานที่เหมาะกับ ความสามารถ ความชอบ เราเถอะ

เอ้อ ตอนงาน Job careers day ที่คณะจัด และงาน Job fair @KMUTT นี้ก็ขึ้นไปแบบโง่งง ชื่อบริษัทไรงี้แทบจะไม่รู้จักเลย เพื่อนสมัครไร ก็สมัครไปตามๆไป ส่วนมากลง Tester ไป (ผิดมหันต์)

ด้านล่างนี้เป็นรายชื่อบริษัทที่สมัครไป แล้วไปสอบสัมภาษณ์หรือข้อเขียนมาค่ะ

1. CP

ยื่นใบสมัครไปส่วนมากก็ให้ไปสัมภาษณ์หมด ถ้าเกรดไม่น่าเกลียดจนเกินไป ตอนนั้นรอบแรกที่ไปน่าจะช่วงกุมภาหรือมีนาเนี้ยแหละ เขาเปิดรับตำแหน่ง  Implement กับ Programmer ทุกคนที่ไปรอบนั้นรู้สึกจะเกรด 3.00 ขึ้นนะ (แต่ถ้าเกรดน้อยกว่านั้นก็มีรอบหลังอีกหลายรอบค่ะ)

สัมภาษณ์ที่ตึกฟอร์จูน พระราม 9 คนสัมภาษณ์ 3 คนชายล้วน ถามทั่วไปเบสิกเลย

แนะนำว่าให้ซ้อมแนะนำตัวทั้งไทย-อิ้ง พูดโปรเจ็ค ฝึกงาน ให้ก่อนเนิ่นๆเลย ได้ใช้ตลอดช่วงทำมาหากินนี้

เผอิญว่าตอนนั้นเรากรอกลงใบสมัครว่าสนใจตำแหน่งอื่นมากกว่า Implement กับ Programmer พี่ๆเขาเลยบอกงั้นเดี๋ยวจะหาทีมไปลงตำแหน่งที่น้องสนใจให้ หลังจากนั้น cp ก็เงียบหายตายจากไป ติดต่อกลับหาอีกทีช่วงพฤษภาคม ให้ไปสัมภาษณ์อีกที่ตึกสีลม แต่เราก็ไม่ได้ไปหรอก บอกลากันไป

มีเพื่อนหลายคนติดที่นี่ ในตำแหน่ง Implement รอบแรกๆ
รับเป็นแก๊งค์ชายฉกรรจ์ทั้งหมดเลย  แต่ผู้หญิงก็รับ
เกรดเฉลี่ยราวๆ 2.50 ขึ้นไป หน่วยก้านดี เนื้องานส่วนใหญ่จะได้ออกไซต์ ตจว.บ่อยค่ะ

http://job.cpall.co.th/v2/Default.aspx
Jobcpall@cpall.co.th

2. Exasites Co., Ltd.

ได้สัมภาษณ์ตำแหน่ง Web Developer มีให้ทำข้อสอบ PHP กับ ข้อสอบอิ๊งซึ่งยากมาก ยากสุดละบริษัทนี้ที่เคยทำมา (คนสัมภาษณ์นางก็บอกเองนะว่าค่อนข้างยาก) หึหึ
บริษัทอยู่ BTS เอกมัย ตึก Sorachai ไม่รู้ตอนนั้นคิดไรอยู่ ทำไมถึงไป 555
จริงๆบริษัทก็ดูโอเคนะ ข้ามชาติด้วย มีสาขาอยู่ที่ซิดนีย์ อินเดีย ขนาดพนักงานต้อนรับยังพูดไทยไม่ได้เลย

www.exa-Thailand.com
woraya.t@exateam.com

3. A-host

อันนี้หนักกว่า สมัคร System engineer ไป สอบข้อเขียนแบบไม่มีความรู้ใดใด อ่านแค่ Job description ไปคร่าวประมาณว่า Config nw โน่นนี้ มีความรู้เรื่อง Unix, Linux บลาๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร พอไปสอบข้อเขียนแน่นอนว่า ทำไม่ค่อยได้เลยค่ะ ข้อสอบแบบวัดความรู้จริงๆมีตั้งแต่พื้นฐานง่ายๆ จับคู่ ยันข้อเขียนอธิบาย โครตพีค แถมมา essay ให้เขียนอีก ทำไปทำมาเขียน essay ง่ายสุดละ

บริษัท A-host อยู่ตรง bts สนามเป้า ตึก SM Town ชั้น 21 เป็นพันธมิตรกับบริษัท MFEC ซึ่งเปิดรับหลายตำแหน่งอยู่เหมือนกันค่ะ

Home

hr@a-host.co.th

4. BBL  ธนาคารกรุงเทพ

มีโอกาสได้ไปงาน Open House ของธนาคารที่จัดขึ้นที่ตึกตรงถนนพระราม 3  ซึ่งเป็นตึกเฉพาะสายเทคโนโลยี (สนง.ใหญ่จะอยู่ที่สีลม) ธนาคารเพิ่งจัดครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจนะ ถึงจะติดๆขัดๆไปบ้าง ช่วงเช้าจะเป็นการพูดของผู้บริหารฝ่ายต่างๆ คนเก่งๆทำงานที่นี้เยอะ แต่ส่วนมากไม่ได้ Start จากที่นี้หรอก และก็แนะนำสายงานไอทีภายในธนาคาร ช่วงพักกลางวันมีแจกข้าวกล่องฟรี อร่อยดี แต่โรงอาหารร้อนไปหน่อยสงสัยนั่งติดแดด พอช่วงบ่ายจะเป็นการสอบข้อเขียนและก็สัมภาษณ์เลย ตอนนั้นได้ไปอยู่ทีมเดียวกับพี่ๆ Infra แล้วทำไปทำมาเกิดอยากเข้าทีมพี่เขาเฉย ก็เลยกรอกใบสมัครเป็น System engineer (หูเบามาก) รอสัมภาษณ์นานมากๆ จนไม่ได้สอบข้อเขียน ต้องไปสอบที่ตึกสีลมอีกอาทิตย์นึง (แอบเซ็ง)
ตอนสัมภาษณ์ก็ตื่นเต้นดีอ่ะ เพราะมีเด็กมาจากหลายที่มาก ส่วนมากคือมาจากบางมด ลาดกระบัง และก็จุฬา คนสัมภาษณ์ 4 คนนะ แต่เขาไม่ได้ดูดุร้ายอะไร ไม่ได้ตะลุมบอนถามกดดัน แต่เพื่อนห้องอื่น (มีหลายห้องประมาณ 3-4 ห้อง) บอกว่าเครียดมาก เจอระดับผู้บริหารไปไรงี้

ผลสุดท้ายคือก็ติดที่นี่แหละ แต่ปฎิเสธไป เพราะกว่าพี่ HR จะโทรมาบอกผลการสัมภาษณ์คือผ่านไป 3-4 เดือนละอะ คือนานไป และก็มารู้ตัวเองอีกทีนึงละว่า เราไม่น่าจะอยากทำตำแหน่งงานนี้จริงๆหรอกเลยปฎิเสธไปค่ะ

แนะนำว่าสัมภาษณ์เสร็จทุกครั้งให้ถามผู้สัมภาษณ์ ไม่ก็ HR ไปเลยว่า
จะสอบผลการสัมภาษณ์เมื่อไหร่ เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียโอกาสกับบริษัทอื่น

https://icareers.bangkokbank.com/
recruitment.ctr@bbl.co.th

5. freewill solution

ไปงาน Walk-In มาจ้า สมัคร Tester ไป อ่อ..ที่นี่มี SAP ด้วยแต่รับคนที่มีประสบการณ์ ก็ไม่มีไรมากไปตั้งแต่เที่ยง รอยันทุ่มนึง คือคนมาเยอะม้ากกกกกกกกกกกกกก เด็กเยอะมากกกกกกกกกกกก คิวรอสัมภาษณ์นานมากโดยเฉพาะ Tester กับ Implement คนมาสมัครเกือบแบบ 40-50 คนรับตำแหน่ง tester 2 คน ง่วงไปอี๊กกกกกกกกกกก และห้องสัมภาษณ์มีห้องเดียว กว่าเราจะได้เข้าห้องสัมก็ เกือบจะทุ่มนึงละ พอเข้าไปก็เจอพี่ผญ. 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นรุ่นพี่ไอทีบางมดด้วย สัมเสร็จคือผ่านรอบแรก ต้องรอสัมอีกรอบนึง จนสุดท้ายต้องเปิดห้องเพิ่ม เอาพี่ๆ HR มาสัมภาษณ์แทนตอนนั้นก็ค่ำๆ ละ ได้สัมภาษณ์กับพี่ผู้หญิง ดูใจดีมากก พูดจาน่ารักถึงพี่จะดูเหนื่อยล้าเคร่งเครียด แต่ก็ไม่ได้หงุดหงิดใส่เราเลยแถมยังแอบโปรยๆบอกเราว่า “ถึงน้องจะไม่ได้งานตำแหน่งนี้ แต่บริษัทของเรามียังมีอีกหลายทีม หลายตำแหน่งที่เปิดรับอยู่นะคะ แล้วจะติดต่อกลับไปค่ะ”

สุดท้ายคือ 2 อาทิตย์ถัดมามีเมล์ส่งกลับมาว่า “ยังไม่มีตำแหน่งว่างสำหรับคุณ ขอบคุณสำหรับที่ให้ความสนใจ” พอประมาณเดือนนึงต่อมา HR ก็โทรมาบอกว่าตำแหน่ง IT Support ว่างอยู่สนไหม เราก็ปฎิเสธเขาไป

http://www.freewillsolutions.com/

6. DST World Wide

ไปงาน Walk-IN สมัครตำแหน่ง Tester ไป มีให้ทำข้อสอบข้อเขียนเกี่ยวกับพวก Test plan, Test script มีประยุกต์หน่อยๆ และก็ข้อสอบอิ๊งแบบครบรส สอบสัมภาษณ์ไทยปนอังกฤษ
เตรียมตัวไปหง่อยพอสมควร และคนวอคอินมาค่อนข้างเยอะ ทั้งใกล้จบและจบนานแล้ว
ใช้เวลาในการสอบรวมแล้วไม่นาน ระบบจัดการคิวดี แถม Canteen มีขนมปัง ของว่างให้กินอร่อยดีอ่ะ ชอบ

เป็นบริษัทข้ามชาติ อยู่ตรง BTS พร้อมพงษ์
ปล. ถ้าใครเรียนวิชาโคบอล มาสมัคร Programmer อาจจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

http://www.dstsystems.com/
thailandcareers@dstws.com

7. IT ONE 

8. AIS

ไปแบบงงๆ และกับเพื่อน และก็ไม่มีใครได้รับติดต่อกลับ จำไม่ได้อีกว่าสมัครตำแหน่งไรไป
เหมือนยังไม่ได้เลือกตำแหน่งด้วย แค่ไปสอบข้อเขียนโลจิก ซึ่งเยอะและยาวมากกกก จนเพื่อนท้อ กากมั่วไป (ผิด) สอบสัมภาษณ์ตามตำแหน่งที่คิดว่าสนใจไม่มีไรมาก งงไปอี๊กกก

9. Avalant

สม้คร Tester  ข้อสอบไม่ได้ยากมาก อาจเพราะเริ่มเตรียมตัวไปดี อารมณ์เหมือนทำข้อสอบที่มหาลัยเลย เปิดชีทเรียน SA มาก็ทำได้อ่ะ เป็นความรู้พื้นฐานที่ Tester ควรจะรู้ จะบอกว่าเห็นน้องในเฟส พอสอบไฟนอลเสร็จไรงี้ก็โปรยชีททิ้ง (ไม่รู้ว่าทิ้งจริงทิ้งเล่น) แต่จะบอกว่าชีทเรียนที่จดๆไว้ เก็บไว้เถอะ พอตอนจะสมัครงานเนี้ยแหละได้ใช้ทั้งนั้นอย่าไปทิ้งเลย  Java, SA, BI อะไรก็ตาม ยิ่งเป็นสรุปที่เราเคยทำไว้เองนั่นจะดีมากก วันหนึ่งมันจะมีค่า

สอบเสร็จ ก็สัมภาษณ์เลย จะบอกว่าพี่คนที่สัมภาษณ์เราเป็นผู้หญิง อยู่ในตำแหน่ง BA แล้ว
เขาก็ให้ข้อคิดหลายอย่างดีมาก พูดเปรียบเทียบให้ฟังว่า บริษัท Outsource มีข้อดีข้อเสียต่างจากบริษัทใหญ่ๆ ที่เป็น In-house อย่างไร เด็กจบใหม่ส่วนมากจะไม่มีประสบการณ์ การได้เจองานที่หลากหลายทั้งในแง่โปรเจ็คและทีม จะทำให้เราทำงานเป็น รู้ว่าอะไรเป็นยังไง เราจะเก่งในหลายๆด้านเพราะเห็นหลายมิติ ซี่งเหล่านี้ล้วนแลกมาด้วยเวลา กำลัง และหยาดเหงื่อ อยู่ที่เราว่าอยากเลือกให้ชีวิตช่วงแรกเป็นแบบไหน พี่เขาบอกอีกว่าบริษัทใหญ่ๆอาจจะดีตรงที่มีความมั่นคงสูง ระบบตายตัว งานที่ทำจะเป็นรูทีน คนที่เจอก็จะคนเดิมๆ งานจะเดิมๆทำไปเรื่อยๆน้องหลับตาก็ทำได้ แต่ว่าเราจะเวลาที่แน่นอน เข้างานเลิกงานตายตัว มีเวลาไปพบปะเพื่อนฝูง หรือดูหนังกับแฟน

ถามใจตัวเองว่าอยากทำแบบไหน?
http://www.avalant.co.th/
jobs-avalant@avalant.co.th

10. True corporation

สมัคร System engineer ตามเพื่อนไป สัมภาษณ์ที่ตึกทิปโก้ พระราม 6

11. Bec-Tero Music

กลับหาพี่ที่ฝึกงาน แล้วก็ถือโอกาสเขียนใบสมัครทิ้งไว้
http://www.bectero.com/th/career
hr@bectero.com

(เพิ่มเติม : ใครอยากลองอ่านประสบการณ์ตอนฝึกงาน คลิกที่นี่ ค่ะ

12. AVISION

สมัครตำแหน่ง ERP Consultant  ไป มีสอบข้อเขียนแบบครบรส จัดหนักจัดเต็ม ถ้าเรียน ERP Workshop + SCM workshop ไปก็พอทำได้ ใช้ความรู้ทางบัญชีเบื้องต้น และก็ Programming พื้นฐาน มีบางข้อที่เราไม่ได้ตอบก็มีพวก Tax แต่รวมๆพอทำได้ มีให้เขียนแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษนิดหน่อย ใครสนใจ ERP ก็ลองไปสมัครได้ บริษัทใช้ Microsost Dynamic NAV implement ระบบ ERP  ตอนสัมภาษณ์ก็ไม่ได้โหดร้ายอะไร คนเดียวชิวๆ แต่พี่เขาก็จะดูข้อสอบที่เราทำไป ข้อไหนทำไม่ได้ก็จะถาม 5555 และก็วัดความรู้ทั่วไปทางด้านบัญชีต่างๆ

เงินเดือนไปต่อรองเอาเอง นี่ไม่ได้ต่อรองอะไรไปแบบงงๆ สุดท้ายก็ปฎิเสธเขาไปอยากทำ SAP มากกว่าค่ะ
www.avision.co.th
Thitiphat@avision.co.th 

13. Gentech Consulting

14. I AM Consulting  ตัดสินใจทำที่นี่

แถมให้อีกทีนึงคือ บริษัท Osellus Asia Pacific  เพื่อนทำ Tester อยู่ที่นี่ สตาร์ทเงินดีมาก สวยงามเลยที่เดียว บริษัทอยู่ในตึก Software Park ถนนแจ้งวัฒนะ ตรงข้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

จะเห็นได้ว่าไปสมัครมาหลายที่มาก ตอนนั้นก็ท้อและเหน็ดเหนื่อยมาก
เพราะว่าไปสัมทีนึง ต้องเสียเวลา เสียเงินค่าเดินทาง (จนตอนนี้แต้ม Point บัตรแรบบิทพุ่งทะลุ 100 แต้มละ)
ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ฝึกตอบคำถาม เกร็งคำตอบที่ดูโปรเฟสชั่นนอลฯ

มีคำพูดนึง อาจารย์พิเชฎฐ์เคยบอกว่าไว้ตอนงาน Party อำลาส่งท้ายรุ่นเราที่ชั้น 4 ตึกคณะ
ตอนนั้นจะไปให้อาจารย์แกผูกข้อมือให้ แต่สายสิจน์ดันหมด (โถ่) แต่เหมือนอาจารย์ก็บอกว่ามันไม่สำคัญหรอก
แล้วก็ถามว่า ฟางได้งานรึยัง เราก็ตอบไปแบบเซ็งๆ ว่า “ยังเลยค่ะ”
ทันใดเสียงอาจารย์ดร.อุมาพร ซึ่งอยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นว่า “ยังไม่ต้องรีบหรอก ได้ทีหลังอาจจะดีกว่าก็ได้นะ”  🙂 🙂
อ.พิเชฎฐ์ก็บอกต่อว่า “ช่วงนี้ก็มีเวลาเราก็เตรียมตัวของเราให้พร้อมเข้าไว้ อาจจะไปหาจาวาอ่าน ทำโจทย์ หรือทำให้ตัวเรามีความรู้พร้อมเสมอที่จะเข้าทำงานสมที่เขาอยากจ้าง”

มันจริงมาก การทำตัวเองให้พร้อมเสมอกับทุกสถานการณ์ที่จะเข้ามาในชีวิต ทำให้เรารับมือกับเรื่องอะไรก็ได้ที่จะผ่านเข้า อย่างสัมภาษณ์งานเนี้ย ส่วนมากเขาจะให้เวลาเราเตรียมตัว 1-2 อาทิตย์ ระหว่างนี้เราก็ต้องไปหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่สมัคร ข้อมูลบริษัท แล้วก็หาสมุดโน็ตไว้สักเล่ม เขียนสิ่งที่สังเคราะห์ได้ไว้อ่านทวนหลายๆรอบ จะได้ไม่ลืมว่าเราควรจะรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับงานตำแหน่งนี้ บริษัทโอเคไหม เราชอบมันจริงๆรึป่าว

(คือตอนสัมภาษณ์จะรู้เองว่า Enviroment ของบริษัทเหมาะกับเราไหม
สภาพสถานที่ทำงาน การเดินทาง หัดเป็นคนสังเกตุเยอะๆ
เอาจริงดูจาก HR ที่มาติดต่อเราสัมภาษณ์งานก็ได้นะ
ว่าสีหน้าเขาดูมีความสุขกับการทำงานไหม ยิ้มแย้มแจ่มใส
พร้อมที่จะต้อนรับเราเข้าสู่บริษัทเขาไหม ทำนองนี้)

หลายคนอาจเรียนจบมา ทำงานไม่ตรงสาย
แต่ได้งานในตำแหน่งที่ชอบ ทีมที่ใช่ ทำแล้วใช่ก็ดีไป
เราว่าการเลือกสายงาน และจุดเริ่มต้นตำแหน่งแรกของเราสำคัญมาก
ถ้าเลือกดี โอกาสที่จะเติบในสายงานนั้นก็จะไว มีความสุข
แต่เลือกพลาด แน่นอนว่าคงเสียเวลา ไปค้นหาตัวเองใหม่ ว่าอะไรที่ใช่
(พูดไปพูดมาก็อยากไปปลูกผักขาย ฮ่าๆ)

ต่อไปนี้จะพูดเกี่ยวกับตำแหน่งสายงาน  SAP CONSULTANT ของบริษัทต่างๆค่ะ

1. ATOS

บริษัทต่างชาติ มีเด็กบางมดเข้าไปตั้งสมรภูมิรากฐานอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร  ส่วนมากเป็นเด็กวิศวะคอมพ์ วิศวะออโต และก็เด็กไอที เพื่อนเล่าว่าที่นี่เน้นภาษาเข้ามาก็เจอแต่ฝรั่งทั้งนั้น ต้องแน่นภาษาอังกฤษพอสมควร เราก็สมัครไปนะ แต่ hr โทรมาถามว่าสนใจ ABAP  หรือ Fucntional ตอนนั้นก็บอกทั้ง 2 ตำแหน่งเลยค่ะ แล้วนางก็เงียบหายตายจากไป ฮ่าฮ่า มีเพื่อนติดที่นี่หลายคน ตอนสัมภาษณ์ส่วนมากก็จะบอกว่าโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ก็เจอชาวต่างชาติสปีคอิ้งรัวรัวใส่จ้า (บางคนก็โดนสัมทางโทรศัพท์เลยก็มี)
เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นได้ชื่อตำแหน่ง “Application Support Analyst” ต้องเทรนก่อนทั้งหมด 6 เดือน
มีเงินเดือนให้ 15k จะเทรนรวมกันสำหรับเด็กใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาประมาณ 2 วีค มีให้ดูอีเลินนิ่ง พร้อมทำเทสอีก 2 วีค รวมเป็น 1 เดือน ซึ่ง 6 เดือนแรกจะเหมือนมาเรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็น overview basic หลังจากนี้…..เงินเดือนจะปรับขึ้นเป็น 26k โบนัสสองครั้งต่อปี หรือแล้วแต่ผลประกอบของบริษัท
ระหว่าง 6 เดือนนี้ถ้ารู้สึกว่าไม่โอเคสามารถออกได้ แต่ถ้าพ้น 6 เดือนไปแล้วถ้าออก จะโดนปรับตามระยะเวลาค่ะ คือติดสัญญา 2 ปีนะ เมื่อพ้นจากการเทรนนิ่งแล้วจะได้ชื่อตำแหน่งใหม่ว่า Junior Consultant 

จุดเด่นของที่นี่ คือจะได้ภาษา เพราะใช้อยู่ตลอดเวลาในการสื่อสาร
จุดด้อย คือ ตึกไม่มี MRT/BTS  ผ่านเนี่ยแหละ การเดินทางอาจจะลำบากนิดนึงสำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว

การเดินทางไปบริษัท
– ถ้ามาจากเส้น BTS  ให้ลงสถานีทองหล่อ แล้วต่อวินมอไซต์มาที่ตึกชาญอิสระ (Charn Issara Tower II) ประมาณ 30 บาท (เพื่อนแอบบอกมาว่ามีบริการรถตู้รับส่งพนง.ฟรีด้วยขึ้นจากบีทีเอสเนี่ยแหละ)
– ถ้าไป MRT  ให้ลงสถานี เพชรบุรีแล้วนั่งวินต่อเข้ามาก็ได้ค่ะ
– Airport link ลงสถานีมักกะสัน แล้วต่อวิน/รถเมล์/สองแถว ได้ตามสะดวกค่ะ

การรับสมัครจะแบ่งออกเป็นรอบๆ รู้สึกจะปีละ 2 รอบคือช่วงพฤษภาคม กับธันวาคม
ใครสนใจก็ลองส่งเรซูเม่ดู

recruitment-th.it-solutions@atos.net
http://atos.net/en-us/home/careers.html
https://www.facebook.com/AtosThailand

2. IT ONE

เป็นบริษัท IT outsource ให้กับ SCG  และ Support ให้ในเครือชิบครอปค่ะ มีตำแหน่งงานเกี่ยวกับสายไอทีหลากหลายเปิดรับเด็กจบใหม่ทุกปี รับทีนึงก็เยอะพอสมควร โดยถ้าเด็กจบใหม่สมัครเข้ามาก็จะให้เข้ามาทำ Test ก่อนทุกคน ซึ่งตอนนั้นเราสมัคร Sap ก็เข้าไปทำข้อสอบพวกโปรแกรมมิ่ง SQL พื้นฐานทั่วไปเกี่ยวกับไอทีรวมๆกัน มีให้เขียน Essay ด้วย ซึ่งต้องทำเทสข้อเขียนนี้ให้ผ่าน ถึงจะได้เข้าไปสู่รอบสัมภาษณ์

ซึ่งเราผ่านเทสข้อเขียนสมใจอยาก แต่ตกรอบสัมภาษณ์จ้า ฮ่าฮ่า คิดอยู่ในใจแล้วแหละว่าตอบคำถามไม่ได้ดีเท่าที่ควร ประหม่าไปเยอะ อีกอย่างนึงคือบอกไปอย่างมั่นใจเต็มปากเต็มคำว่าไม่ชอบ Programming (พูดเพื่อรายย) ซึ่ง Job description ของที่นี่สำหรับเด็กจบใหม่ในสายงาน SAP ต้องถูกจับไปเรียนเขียน  ABAPนั่งเป็น back-end อยู่หลังบ้านก่อน คอย Coding โปรแกรม ปรับแต่งให้โปรแกรมเป็นโมดูลที่เหมาะสมกับธุรกิจลูกค้า ตาม requirement ที่ Consultant ไปเก็บมา ทั้งนี้จะบอกว่าต้องรักในโปรแกรมมิ่งพอสมควร งานอาจจะไม่ได้ Coding หนักๆแต่ทำไปเพื่อให้พอรู้และเข้าใจ  business process  ก่อนจึงค่อยขยับไปเป็นไป Consultant ให้อนาคต

โดยตำแหน่งที่ได้รับเริ่มต้นคือ “Solution Delivery Analyst” ส่วนใครจะได้โมดูลอะไรของ SAP ก็ต้องดูความถนัดและเหมาะสมกันอีกทีนึงค่ะ

ส่วนการเทรนที่นี่ก็มีเทรนให้เหมือนกันค่ะ โดย 3 weeks แรกจะสอนพวก  business overview กันก่อน (แอบเห็นว่าที่นี่ล้ำซำมากค่ะ เปิดเทรนกันที่โรงแรม เลี้ยงอาหารกันแบบบุฟเฟต์อยู่ดีกินดีสุด)

จุดเด่นของที่นี่ก็คือ  ฐานเงินเดือนเด็กจบใหม่สูงเลยทีเดียว เท่าๆที่ดูมา คือ 25k โปร 4 เดือน

บริษัทตั้งอยู่เส้นพระราม 6 ถ้ามาจากอนุสาวรีย์นั่งแท็กซี่ต่อมาราวๆ 30-40 บาท หรือนั่งรถเมล์มาก็ได้ 2 ต่อ บริษัทจะตั้งอยู่ภายในอาคารทิปโก้ ชั้น 22-23 แลกบัตรก่อนขึ้นตึกค่ะ พอมาถึงชั้นก็มองไปที่โต๊ะและก็เซ็นลงชื่อ

ที่นี่เปิดรับสมัครงานเรื่อยๆ ทั้งปี ว่างๆก็ไปเข้าดูที่ jobsdb.com ก็ได้ มีตำแหน่งงานว่างสำหรับเด็กจบใหม่รออยู่ตลอด

http://www.itone.co.th/
wimonsit@itoneco.com

3. Accenture

เป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ มีสาขาอยู่ทั่วโลกเกือบ 100 สาขา มีชื่อเสียงมากในวงการไอที ออฟฟิศใหญ่อยู่ที่ศาลาแดง ตึกอับดุลราฮิม เข้าไปตอนแรกจะได้ตำแหน่ง “Graduate Trainee” ก่อนค่ะ คือจะมีการเทรนนิ่งให้ก่อน 4 เดือน พอหลังจากนั้นจะถูกแบ่งไปตามโปรเจ็ค ตามไซท์ลูกค้าตามความเหมาะสมอีกทีนึงนะ

จุดเด่น คือ เงินเดือนดี มีความมั่นคง มีชื่อเสียง และก็ได้ภาษาแน่นอน
จุดด้อย คือ งานเยอะ ไม่มีโอที แต่พูดถึงในแง่ประสบการณ์ที่ได้รับก็น่าจะคุ้ม ออกไปจากที่นี่ก็คงแข็งแกร่งและจะเป็นที่ต้องการของอีกหลายๆบริษัท อารมณ์ประมาณเหมือนถูกฝึกมาอย่างช่ำชองแล้ว ประมาณนี้ สัมภาษณ์เป็นอิ้งประมาณ 4 รอบทางโทรศัพท์ เตรียมรับมือให้พร้อมตลอดเวลา เพราะไม่รู้จะโทรมาตอนไหน

http://www.accenture.com/
ส่ง Resume และ Transcript เข้ามาที่ E-mail นี้นา
W.srianankavanich@accenture.com

4. Gentech Consulting

ได้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ SAP เหมือนกัน รู้สึกว่าออฟฟิชใหญ่จะอยู่ที่ Q house ลุมพินี แต่ตอนสัมภาษณ์พี่เขานัดเราที่ Groove @Central world ตรงร้านโอบองแปง

คนสัมภาษณ์เป็น PM  ประสบการณ์พี่เขาดูโปรไฟล์ดีมาก ตื่นเต้นมากก พี่ถามลึก ถามละเอียดมาก แต่เราเตรียมตัวมาดีไม่พอ ซ้อมมาแค่ BASIC แน่นอนว่าตกรอบสัมภาษณ์ไปเรียบร้อย
แต่ HR ที่นี่ดีนะ โทรมาบอกด้วยว่า “ตอนนี้ยังไม่มีตำแหน่งงานว่างสำหรับน้องนะคะ แต่พี่จะเก็บเรซูเม่น้องไว้ 6 เดือนถ้ามีตน.ว่างที่เหมาะสมแล้วจะติดต่อกลับไป” ตอบได้ดีงามเป็นการปฎิเสธที่ไม่ค่อยเจ็บปวด แต่ตอนรอผลที่ปวดร้าวมากตอนสัมภาษณ์พี่เขาก็พยายามเล่าให้ฟังว่าบริษัทพี่ไม่ได้มีแค่  SAP นะ ERP  ก็มี สนใจไหมล๊ะ
แนะนำว่าเมื่อสมัครตำแหน่งอะไรไป ก็ควรมั่นใจในตำแหน่งที่ตัวเองสมัคร
แต่ถ้าใครสนใจก็ลองส่งเรซูเม่ ทรานสคริปไปได้ น่าจะมีโอกาสอยู่ถ้าเตรียมตัวมาดีๆ
และก็ให้คิดเตรียมไว้เลยว่าอยากทำ Module ไหนอะไร เพราะอะไร แล้วก็ศึกษาเกี่ยวกับ Module นั้นคร่าวๆ เพื่อไปเล่าให้คนสัมภาษณ์ฟัง จะดีมากอ่ะ อย่างของเราก็โดนทดสอบเรื่อง Dr, Cr , ผังบัญชี , สมการทางบัญชี, พวก inventory  ส่วนมากเราเล่าเรื่องที่เราเรียนมาตอนนั้นจำพวก Procurement ได้ก็เล่าให้พี่เขาฟัง แต่เล่าไปแบบตะกุกตะกักเพราะไม่ได้ซ้อมมาจริงจัง เรียกว่าไปด้นสดเอาตอนนั้นเลย มันเลยดูไม่โปรฯเท่าไร พอกลับมาก็นั่งคิดนอนคิดหาข้อมูลเตรียมตัวใหม่ให้ดีกว่าเดิม

http://www.gentech.co.th/
tharinee@gentech.co.th

5. I am consulting

ตัดสินใจทำงานที่บริษัทนี้ ซึ่งสมัครจากงาน Job Fair ที่มหาลัยไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี กว่าบริษัทจะโทรมาติดต่อขอนัดสัมภาษณ์ก็เรียนจบพอดี คือราวๆต้นมิถุนายน (ต้องใจเย็นนิดนึง) ซึ่งนัดที่ตึกจัสมิน ชั้น 21 ขึ้นไปก็งงๆเพราะไม่มีป้าย I AM CONSULTING  มารู้ทีหลังว่าเป็นบริษัทญาติๆกันในเครือ มีอีก 2 บริษัท
เราได้สัมภาษณ์ในตำแหน่ง SAP Functional consultant ก่อนสัมภาษณ์มีแบบทดสอบโลจิกอันแสนปวดหัวให้ทำแบบจุใจหนึ่งฉบับ พร้อมกับให้เขียน Essay อีกหนึ่งหน้า หัวข้อที่ให้เขียนก็ basic ทั่วไปสามารถคาดเดาได้ อิอิ การสัมภาษณ์ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ตอนนั้นเดาไม่ถูกว่าจะติดไหม แต่บรรยากาศก็ชิวชิว พี่คนสัมภาษณ์เป็น PM แอบถามยียวนใจกวนนิดๆ แต่เราก็สดใสร่าเริง แอคติ้งเข้าช่วยไว้ ถึงจริงๆจะเหนื่อยมาก แต่ประสบการณ์การตกรอบ รอบสัมภาษณ์ทำให้เลเวลเราอัพสูงขึ้นเรื่อยๆ จนหาข้อบกพร่องจากบริษัทก่อนๆเจอว่าทำไมฉันไม่ผ่านรอบสัมสักทีว่ะ ฉันพลาดอัลไลลลลลลลล – “ประสบการณ์จะสอนให้เราแกร่งขึ้น”

อ่อ ลืมบอกไปที่นี่มี  SAP ABAP Programmer ด้วยนะ
แต่เพื่อนบอกว่าสัมภาษณ์โหดอะ ถามทฤษฎีค่อนข้างลึก

ส่วนชื่อตำแหน่งที่ได้รับเริ่มต้นคือ SAP Analyst  เงินเดือนสตาร์ทที่ 20k  (จริงๆ 18k แต่ถ้าเอาโน้ตบุ๊คมาใช้เอง ไม่ได้ใช้ของบริษัทก็บวกเพิ่มไป 2000) โปร 4 เดือน มีเทรนให้ 5-6 weeks เป็น Boot camp
ปล. หลังพ้นโปร 4  เดือน เงินเดือนจะถูกปรับขึ้นตามความสามารถแต่ละคน

ต้องขอบคุณบริษัทไอแอม พี่ๆที่สัมภาษณ์ที่ให้โอกาสเข้ามาทำงานที่นี้ มีบริษัทเพียงไม่กี่ที่ที่ให้โอกาสเด็กจบใหม่เข้ามา
มีคอร์สเทรนให้ปูพื้นฐาน มื้อกลางวันที่โรงแรม My Hotel CMYK (อร่อยทุกเมนูเลอ) เลี้ยงดูปูเสื่อพวกเราทั้ง 11 คนที่จบใหม่มาดีมาก
พี่ๆที่สอนโมดูลต่างๆให้ ก็ตั้งใจถ่ายทอดความรู้ให้เราอย่างดี สงสัยอะไรก็พร้อมจะตอบได้หมด
ที่สำคัญเส้นทางข้างหน้ายังได้ทำในส่วนของการ Implement น้อยที่นักที่จะให้โอกาสเด็กจบใหม่ทำในส่วนนี้ โดยส่วนใหญ่จะให้ไปทำ Support ไปก่อน ซึ่งเนื้อหา และประสบการณ์ที่ได้รับจะต่างกันมาก โดยแต่ละคนจะได้รับการ assign ให้ไปตามโปรเจ็คต่างๆ แล้วแต่ความเหมาะสม ชีวิตบู๊มากกกกกกกกกกกกก นั่งทำงานตามไซท์ลูกค้า ตาม Project แล้วแต่จะได้ ช่วงแรกก็มึน ๆ งง ๆ กันไปก่อนแหละ ไว้ทำงานไปได้สักพักจะมาอัพเดตให้ฟังนะคะ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sap functional และ Abap
– การเป็น Functional ที่น่าจะรุ่ง ควรมีความรู้ทางด้าน Industrial Engineering หรือ Business Computer หรือ Business Administration เพราะต้องรู้จักธรรมชาติของโรงงานหรือธุรกิจ เพราะ Functional ต้องนำเอา Best Practice ของ SAP ออกมาแนะนำให้กับธุรกิจต้องใช้ ส่วน ABAP ต้องเขียนโปรแกรมตาม Spec ที่ Functional ให้มา และตอนนี้แหละค่อยๆสะสมความรู้ทาง Functional เพื่อที่จะได้เรียนรู้ลักษณะงานในองค์กรนั้นๆ

– เปรียบเทียบได้ว่า Functional เป็นงานพบปะผู้คน ส่วน ABAP คืองานปิดทองหลังพระ

บริษัท  I am consulting มี Head office อยู่ที่ห้วยขวาง ระหว่างซอยประชาอุทิศ 1 กับ 3
วิธีการเดินทาง คือ ลง MRT ห้วยขวาง ประตูทางออก 1 ต่อวินน่าจะ 15- 20 บาท
หรือ จะรอรถโดยสารสองแถวแดง (เขียนว่าไปรามคำแหง)  7 บาท หรือจะเหมาตุ๊กตุ๊กไปก็ได้ เคยนั่งเข้าไปคิดคนละ 10 บาท

และก็มี office อยู่ที่ตึกจัสมิน อโศก ด้วยแต่จะเป็น iCoach (จัดเทรนคอร์สำหรับ user และผู้ที่สนใน)
กับ iTs (ดูแลพวกเรื่อง licenses และ support)

http://www2.iamconsulting.co.th/iam/index.php
recruit@iamconsulting.co.th

ตำแหน่งที่เปิดรับ

update ข่าวล่าสุด 08/03/2017
สำหรับน้องๆ นิสิตนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่

อยากมาทำ SAP โมดูลต่างๆ เรามีข่าวมาอัพเดทว่าปีนี้ I AM Consulting เปิดรับน้องๆที่สนใจอยากเข้ามาทำ SAP (15 ตำแหน่ง) และมีโอกาสได้ไปทำงานจริง เจ็บจริง เอ้ย ไปทำเจค (โปรเจค)จริง ปีนี้เรายังคงคอนเซปท์ว่า ไม่มี Bonding ถ้าน้องๆชอบอยู่กับเรา ก็อยู่กันไป น้องๆสามารถกรอกใบสมัครออนไลน์ได้ที่ลิ้งค์นี้นะ https://docs.google.com/…/1FAIpQLSci72mxqv4KiO2eMK…/viewform 
ใครสะดวกจะสแกน QR Code กรอกใบสมัครก็ทำได้โลดจ้าาา

6. Abeam

อันนี้ไม่ค่อยมีความรู้เลย เพราะไม่มีเพื่อนได้ที่นี่ และก็สมัครไปก็เงียบไร้การติดต่อ แต่เห็นเขาว่าก็รับเด็กจบใหม่เหมือนกันนะ ในพันทิปมีคนเม้นว่า
“Abeam อยู่ Q  House เพลินจิตนะครับ เข้าได้แนะนำเลย ฐานเงินเดือนสูงสุด เข้ายากสุด สัมภาษณ์โหดสุดน่าจะราวๆ 4 รอบ แต่คุ้มครับได้ไปญี่ปุ่นทันที”

มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

บริษัทที่ปรึกษาไอทีจากญี่ปุ่น แตกตัวมาจากพี่ใหญ่ Deloitte (Big 4 ด้านตรวจสอบบัญชีและให้คำปรึกษา)
มี 12 สาขาทั่วโลก เด็กจบใหม่จะถูกเข้าคอร์สเทรนโดยเริ่มจาก Analyst ก่อน
เมื่อ on the job training ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลานั้นมี project ให้ไปลงที่ไหน
อาจอยู่ใน กทม. หรือต่างจังหวัดก็ได้ แล้วจะมีการแยกไป 2 สายใหญ่ คือ CRM และ SAP
หลังจากนั้นจะมีการคัดเลือกเพื่อส่งไป on the job training ที่ญี่ปุ่นอีก 1 ปี
แล้วกลับมาทำงานที่ไทยต่อ ซึ่งบางคนอาจถูกส่งไปโปรเจคต่างประเทศเป็นบางครั้ง
เพราะที่นี่ใช้ระบบ share resources บุคลากรในทุกสาขาทั่วโลก

ขั้นตอนการสมัคร: ส่ง resume, transcript ไปที่ thabrecruit@abeam.com แล้วรอตอบกลับ
รอบแรกจะให้เราไป analytical workshop โดยเป็น english session
และมีการนำเสนอแผนการวิเคราะห์และแนวทางแก้ไขปัญหาจากโจทย์ที่ได้รับมาทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่ม
หลังจากจบวันนั้นจะมีการแจ้งว่าเราผ่านแล้วให้ไปสัมภาษณ์กับ Project Manager ต่อ
สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเช่นกัน ถามทั่วไปไม่โหด ใจดี (ที่เจอนะ เป็นคนญี่ปุ่น)
และพอผ่านก็จะได้รับแจ้งให้ไปสัมภาษณ์รอบ Manager ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นอีกแล้ว ภาษาอังกฤษเช่นเดิม

ส่วนคนที่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาบ้างแล้ว การสมัครและสัมภาษณ์ประมาณ 3 รอบค่ะ รอบละ 1 วัน
– รอบแรก HR สัมภาษณ์คร่าวๆเปนภาษาอังกฤษหมดเลย เพราะเค้าไม่ใช่คนไทย ถามว่าเคยทำโปรเจ็คอะไรมาบ้างสั้นๆไม่ยาว
– รอบ 2 สัมภาษณ์กับ Team Lead ภาษาไทย สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เหมือนกัน คุยกัน ชม กว่า
– รอบ 3 สัมภาษณ์กับใครก็ไม่รู้ แต่ท่าทางตำแหน่งสูงแหละ (เดาว่าอาจจะเป็น Project Manager)ก็ภาษาอังกฤษครึ่งนึงไทยครึ่งนึง ถามยากมาก Concept ก็ค่อนข้างยากถ้าไม่แม่นพอ
รอบนี้อาจะโดนต่อรองเงินเดือน เงื่อนไขอื่นๆด้วย
ได้ Benefit ดีพวกค่าเดินทาง ก็ลองต่อรองดูเองนะ

http://www.abeam.com/tha/en/
thabrecruit@abeam.com

7. Harmonious

บริษัทโทรมาแต่เรารับไม่ทัน 2 สายพอโทรกลับเขาบอกว่าจะนัดสัมภาษณ์ ในตำแหน่ง SAP Abap programmer แต่ว่าคนสัมภาษณ์ไม่ว่างแล้วค่ะ และก็ยังไม่มีกำหนดว่าจะว่างเมื่อไหร่ด้วย อดไปเลย
ออฟฟิตตั้งอยู่แถวๆ ม.เกษตร บางเขน implement SAP ให้องค์กรใหญ่ๆหลายที่ น่าสนใจเหมือนกันค่ะ

http://www.harmonious.co.th/

8. Wiser Tech

บริษัทนี้โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ตำแหน่ง SAP Abap programmer แต่ว่าเขามาเลื่อนวันสัมภาษณ์ไป จนเราไปติด I am consulting ซะเลยเลยไม่ได้ไปสัมภาษณ์

สืบมาว่าเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยพนังงานที่เคยทำงานอยู่ที่ Accenture มาก่อน และมาเปิดบริษัท implement Sap เองซะเลย

http://www.wisertech.co.th/home/
parichat@wisertech.co.th

9. ExxonMobil

บริษัทพลังงาน top 10 องค์กรของโลก (รวย) ขายน้ำมัน (esso บ้านเรา)
น้ำมันเครื่อง และปิโตรเคมี ในไทย มีสาขาอยู่ 190 ประเทศทั่วโลก
สำหรับไอทีที่ไทยอยู่ใน Bangkok Business Support Center ที่ทำงาน
ร่วมกันกับทีมทั่วโลก ในองค์กรมีการใช้ SAP เกินครึ่งของระบบ
จะชอบโค๊ดหรือไม่ชอบก็สมัครได้เพราะมีทุกอย่างให้ทำเต็มไปหมด ระบบใหญ่และลึกลับซับซ้อนมาก

ชั้นตอนการสมัคร: ที่นี่ required คะแนนภาษาอังกฤษ TOEFL, TOEIC หรือ IELTS ก็ได้
เพราะเราต้องใช้ภาษาในการทำงานจริง ๆ
โดยจะสมัครโดยตรงที่เว็บ
http://www.esso.co.th/Thailand-English/HR/careers.aspx
หรือผ่านนายหน้ารายใหญ่ (ในไทย) อย่าง Adecco ก็ได้
http://www.adecco.co.th/jobs/adecco-jobs.aspx?s=9

ซึ่งเปิดรับฝ่ายไอทีเป็นระยะขึ้นอยู่กับจังหวะชีวิตที่เราจะเจอ
แต่บางคนก็อาจได้รับการทาบทามจากนายหน้าเจ้าอื่น (head hunter) ก็มีเหมือนกันนะ

สำหรับ Adecco ก็จะให้ไปทำ attitude test เขียน essay กับสัมภาษณ์ทั่วไป
ถ้าเขาโอเคก็จะส่งชื่อเราไปที่ ExxonMobil
แล้วถ้าทางบริษัทตอบโอเคกลับมาก็จะนัดสัมภาษณ์โดยอาจมีรอบเดียวหรือสองรอบก็ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน
การสัมภาษณ์ก็วัด attitude มากกว่าอีกเช่นกัน
หลังจากสัมภาษณ์ส่วนใหญ่จะใช้เวลา process นานราว 1-3 เดือน
แต่บางเคสก็ใช้เวลาไม่ถึงอาทิตย์เดียวก็ได้รับการตอบรับและเสนอผลประโยชน์และสวัสดิการ

10. ISS Consulting

บริษัทคอนเซ้าที่มีพนักงานเยอะที่สุดแล้วในประเทศ iss ขายหลายโปรดักค์เกี่ยวกับ SAP มีตำแหน่งให้สมัครเยอะ และที่นี่รับคนทั้งปี ทุกโมดูล สมัครไปได้เลย เอาจริงคือถ้ามีประสบการณ์มาแล้ว MD ที่นี้ลงมาสัมภาษณ์เองทุกตำแหน่ง ทุกคนที่เข้ามาทำงานที่ก็จะผ่านหน้า MD ก่อนเสมอ และก็มักจะรับพนักงานเข้าทุกคน หากไม่มีอะไรไม่ถูกจริตเขานะคะ และตอนสัมภาษณ์ถ้าเป็นฟังชานอล แกแทบจะไม่ค่อยได้ทำ เทคนิคอลเลย ถามเรื่องของ EQ  กับเหตุผลที่ย้ายมาทำที่นี่และวัดใจในหลายๆเรื่องค่ะ
ออฟฟิศอยู่ตึกยูไนเต็ด สีลม ลงบีทีเอสศาลาแดงแล้วเดินเอาได้เลย วัฒนธรรมองค์จะค่อนข้างไทยๆจ๋าด้วยความเป็นบริษัทใหญ่ process อาจจะค่อนข้างใช้เวลานานสักนิดค่ะ ที่นี้สวัสดิการดีมาก ณ ปัจจุบันที่ฟางมานั่งอัพเดทคือปี 2020 มีทั้งค่าโทรศัพท์ ค่า medical, ค่า per-diem ให้ค่อนข้างตอบแทนดี สู้กับ abeam ได้เลย

https://www.issconsulting.co.th/
https://www.issconsulting.co.th/career/

11. ICS Consulting

บริษัทตั้งอยู่ที่ตึกพญาไท พลาซ่า บริษัทไม่ใหญ่มาก คิดว่าถ้าใครอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ที่ 1 คนจะสามารถทำได้หลากหลายโมดูล และพัฒนา skill sap ได้เร็วๆในจำนวนปีไม่เยอะ บริษัทนี้ก็น่าสนใจค่ะ HR คุยง่ายน่ารัก
http://www.ics-th.com/th/career_/

12 Bluedot Consulting

บริษัทน้องใหม่ไฟแรงสุด ฮ่าๆ เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานค่ะ น่าจะประมาณ 2-3 ปีได้ (เขียนเมื่อปี 2020) เกิดจากกลุ่มคนจากบริษัทอาโทส ที่มีประสบการณ์ร่วมกันเปิดบริษัทคอนเซ้าท์ขึ้น ซึ่งพนักงานจะยังไม่เยอะ เน้นการทำงานแบบลุยๆ คนน้อย เรื่องไม่เยอะ และแน่นอน ใครอยากฝึกฝนสกิล ให้ muti-tasking ได้หลาย module ที่นี้น่าจะอัพ level ให้คนที่สนใจเนื้องานแบบนี้ได้เยอะ ที่นี้ให้เงินดีค่ะ แต่สวัสดิการอาจจะเยอะไม่ว้าวมาก เพราะบริษัทยังเล็กอยู่ แต่คิดว่าอนาคตเป็นบริษัทที่น่าจับตามองและน่าจะพัฒนาองค์ไปได้ไกล

https://www.bluedotconsulting.co.th/

11.  SAP Thailand

อันนี้เป็นบริษัท Original ที่ผลิต SAP ขึ้นมาเลย มีหลายสาขาทั่วโลก กฎการรับพนักงานคือ สมัครผ่านส่วนกลาง แล้วเลือก Country เป็น Thailand

– ใช้คะแนนภาษาอังกฤษอะไรบ้าง ?
ใช้ IELTS , TOEFL จะไม่ใช่ TOEIC เพราะว่าเป็น Global ค่ะ (เพื่อนเราที่ติดที่นี่ได้ 6.5)

– การสอบข้อเขียน
มีให้เลือก 4 ด้าน คือ Finance, Programmer, Business, IT (ทุกอย่างเกี่ยวกับไอทีหมด แค่เน้นด้านนั้นๆ)
เมื่อสอบเสร็จ จะได้คุยกับหัวหน้า HR ประจำประเทศไทย เพื่อนเล่าให้ฟังว่า วันนั้นมีคนมาสัมภาษณ์ 17 คน จุฬา 7 ลาดกระบัง 2 บางมด 1 เกษตร 3 มช. 1 ธรรมศาสตร์ 3
แต่ว่ารับทั้งหมดแค่ 2 คน (ว้ากกก เพื่อนฉันเก่งมากเลย โหดสัสรัชดา)

– บริษัทมี 160 สาขาทั่วโลก มันเจ๋งตรงที่ว่า เราอยากไปประเทศไหน สามารถบอกได้เลย เพราะว่าเด็กจบใหม่ต้องเทรนเหมือนกันหมดค่ะ ออกแค่ค่าที่อยู่ ค่ากินเอง

– มีเทรนนิ่งให้ โปร 6 เดือน เงินเดือนเด็กจบใหม่เท่ากันทุกคนคือ 30000 บาท ทุกตำแหน่ง โดยแต่ละคนจะปรับฐานเงินเดือนใหม่ทุกปี อยู่ที่ความสามารถ เพื่อนเราเลือกมาเทรนที่ London เพราะต้องทำมาเกี่ยวกับทุนด้วย ซึ่งเงินเดือนจะปรับเป็น 1400 ปอนด์ หรือประมาณ 70000 กว่าบาท

– ภาษาอังกฤษสำคัญมาก เพราะสาขาที่ไทยต่างชาติก็ราวๆ 60%

– สภาพการทำงานดี สิ่งแวดล้อมดี ทุกคนเหมือนเป็นตำแหน่งเดียวกัน แชร์กันได้ทุกเรื่องการทำงาน

http://www.sap.com/directory/thailand.html

เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้รวบรวมมาจากเพื่อนในคณะผู้น่ารักที่ได้ไปปูทางบุกเบิกเพาะเมล็ดพันธุ์ มจธ.ไว้ตามบริษัทต่างๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะเลือกสายงาน SAP ในบริษัทต่างๆ หากมีข้อมูลผิดพลาดได้รบกวนช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงเนื้อหาให้ดียิ่งๆขึ้นไปด้วยค่ะ 🙂

ฝากติดตามภาค 2 ด้วยค่ะ เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสายงานของ SAP และก็เล่าถึงการทำงานจริงเกี่ยวกับด้านนี้ด้วย
จิ้มลิงค์นี้โลด >> มาทำความรู้จักเกี่ยวกับ SAP Consult ให้มากขึ้น พร้อมบอกเล่าถึงชีวิตการทำงานและสายงานที่เกี่ยวข้อง SAP ทั้งหมด (When You Work As An SAP Consultant)

สุดท้ายเอามาฝาก

Comments

comments