ช่วงประมาณต้นปี 2016 มีความคิดอยากจะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ ของเดิมที่เคยใช้อยู่คือ iPhone 5
ระยะเวลาการใช้งานอยู่ร่วมกันกับเครื่องนี้ประมาณ 2 ปี เหตุที่ต้องการเปลี่ยนเพราะทำตกพื้น (น่าจะรอบที่ 67) ส่งผลให้หน้าตาแตกร้าว ส่งผลต่อ Touch Screen แล้วกลัวจะบาดนิ้ว หรือบาดแก้มอันบอบบางของเรา
ก่อนหน้านี้ก็ทำตกไปหลายรอบ เป็นคนไม่ค่อยจะชอบใส่เคสกันกระแทกด้วย เครื่อง iPhone 5 นี้ผ่านอะไรมาเยอะ เจ็บมาโชกโชน ปกติทิ้งพื้นกี่ทีต่อกี่ทีก็ไม่เคยแตก แต่วันนั้นจำได้เลยว่า ตกพื้นกระเบื้องหน้าบ้านตัวเอง มือปัดแก้วน้ำตกส่งผลให้มือถือร่วงตามไปด้วย oh my gozz ร้องดังมาก!!! “ฮือออออออออ จอแตกกกกกกกกกก” พร้อมกับใจที่แตกสลายตามไปด้วย T^T
อ่อ ลืมบอกไปว่า ปุ่ม lock screen หน้าจอด้านบนของเครื่องก็พัง ใช้ Assistive Touch แทนมาตลอด เพื่อนมหาลัยเคยบอกเกี่ยวกับปุ่มโฮมของไอโฟนว่า “มึงกดๆ ไปเหอะ เขาออกแบบมาอย่างดี ผ่านการทดสอบการกดมาเป็นพันๆ หมื่นๆ รอบแล้ว มันไม่พังง่ายๆ หรอก” ก็เชื่อ บางทีถ้าไม่เจอ Assistive Touch ก็ใช้ปุ่มโฮมไปเลย
สรุปคือ iPhone 5 ของเรานั้นพังไปหลายส่วนหลายอวัยวะ แต่ก็ยังใช้ได้ปกติ เราไม่ใช่สายเทคโนโลยี เปลี่ยนมือถือจึงไม่ได้รีบร้อน ถ้ามันไม่หนักหนาสาหัสจริง ๆ
สุดท้ายก็มานั่งคิดว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่แล้ว ง่ายสุดคือไปถามเพื่อน
เราสังเกตว่าเพื่อนผู้ชายส่วนใหญ่ใช้มือถือ Android และผู้หญิงเทใจไปใช้ Apple กันล้นหลาม
มีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็น mobile lover มาก นางเปลี่ยนมือถือบ่อยมาก ปีหนึ่งเฉลี่ย 2-4 เครื่อง รู้เรื่องมือถือใหม่ๆ ก่อนใคร ใครจะซื้อมือถือให้ครอบครัวก็ไปปรึกษานางได้ นางอธิบายข้อดีข้อเสีย และอยู่ในงบประมาณที่เรากำหนด
บทสัมภาษณ์เพื่อนคนนี้:
“มันเป็นความชอบนะ อยากลองเล่นตัวนู้นตัวนี้ จริงๆ เมื่อก่อนเคยคิดแบบนี้นะ ถ้าซื้อมาตอนเปิดตัว 20K ใช้ไป 1 ปี อาจขายได้ 14K เงินหายไป 6K แต่ถ้าใช้ไป 2 ปี อาจขายได้ 9K เงินหายไป 11K สู้ซื้อเครื่องใหม่ปีแรกที่หายไป 6K ดีกว่า จ่ายเพิ่ม 6K แต่ได้เครื่องใหม่ทุกปี คนที่เปลี่ยนมือถือทุกปี เสียเงินทีละนิด แต่ได้ใช้ของใหม่ทุกปี คนที่นานๆ เปลี่ยนที ต้องจ่ายครั้งใหญ่แล้วใช้เครื่องเดิมนาน ประมาณนี้ อยากได้ อยากลองไรงี้”
กลับมาที่เรื่องของเรา โจทย์คือหามือถือใหม่ จะใช้ฝั่ง Apple เหมือนเดิม หรือย้ายฝั่ง Android ตอนนั้นคิดหนัก ถ้าเปลี่ยนไปใช้ Android ต้องปรับตัวเยอะเพราะสมัยประถม-มัธยมมือถือฝั่งแอนดรอยด์ช้า อืด ไม่ทันใจ
ที่ผ่านมาเราชินกับ iPod Touch, iPhone, MacBook Air อยากไปซื้อ iPhone 6s เพื่อจงรักภักดีกับ Apple แต่ราคาสูงมาก เลยหันมาศึกษา Android ว่าสเปคโอเค รูปลักษณ์ดี และกล้องชัด
เพื่อน mobile lover ใช้ Nexus 6P วันนั้นไปกินข้าวร้าน S’more Central World หลัง Christmas ถ่ายรูปแล้วภาพชัดมาก ตาลุกวาว
เพื่อนผู้หญิงอีกคนใช้ Samsung Galaxy S6 Edge กล้องหน้าโอเค จอโค้งแปลกตา
ตัดสินใจซื้อ Samsung Galaxy S6 Edge เพราะจอโค้ง ข้อความ feed/notification ขึ้นตรงขอบจอ กล้องหน้า 5 ล้าน หลัง 16 ล้าน เพียงพอ
ตอนแรกจะขาย iPhone 5 แต่หลานชายอยากใช้ต่อ ซ่อมปุ่ม lock screen และเปลี่ยนหน้าจอใหม่ ประมาณ 2,700 บาท ที่ร้าน iCare ฝั่งโตคิว
ซื้อ S6 Edge ในราคา 17,900 บาท (กุมภาพันธ์ 2016) ช่วงแรก ๆ ยังชินยาก ต้องปรับตัวกับฟอนต์ ไอคอน ขนาดจอใหญ่ มือเล็ก ทัชมือเดียวยาก
หลังใช้ไป 21 วันก็เริ่มคุ้นเคย
ข้อดี iPhone 5
- Case หาง่าย สวย ราคาไม่แพง
- UI สวย ไอคอนสวย มองง่าย
- ทุกอย่างซิงค์ผ่าน iCloud สะดวกกับอุปกรณ์ Apple
- ดีไซน์เอกลักษณ์ คลีนๆ
- ระบบปิด ป้องกันไวรัสดี
- แอปฯ ที่ชอบมีให้เลือกเยอะ เช่น Typic
- iMessage ส่งข้อความฟรีระหว่างอุปกรณ์ Apple
ข้อดี Samsung Galaxy S6 Edge
- ปรับแต่งธีม ฟอนต์ ไอคอน สี ได้เยอะ Android เปิดกว้าง
- ลงเพลง หนังง่าย
- กล้องคมชัด กล้องหน้า/หลังดี
- Galaxy Gift แลกซื้อของขวัญ แอปสนุก
- Peel Smart Remote ใช้แทนรีโมท TV และแอร์
- ปุ่ม Back ใช้ติดมือ
สุดท้ายประสบการณ์แต่ละคนต่างกัน เลือกมือถือที่ตอบสนองความต้องการเราได้ดีที่สุด เช่น โทรเข้าออก เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ใช้งานสะดวก ประหยัดเวลา