รีวิว LaLaLand นครดารา (2016) หนังมิวสิคัลที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา งดงาม เหนือชั้นตระการตาสมบูรณ์แบบ ต้องดู!!

fangrio

8 years ago

หนัง LaLaLand นครดารา (ชื่อไทยดูโบร๊าณ โบราณเนาะ)
เราตั้งหน้าตั้งตารอมาครึ่งปี อยากดูเรื่องนี้ม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อยากดูต้องได้ดู

ทำไมถึงอยากดู?

– เพราะพระเอกกับนางเอกเลย Ryan Gosling กับ Emma Stone เราชอบคู่นี้เป็นเดิมพันอยู่แล้ว เคยดูเรื่อง Crazy Stupid Love แล้วชอบเคมีคู่นี้มาก มันใช่ เกลียดความชุนมุนต่อล้อต่อเถียงของนาง 2 คนตอนจีบกัน กรี๊ดดดดดดดดดดด ยกให้เป็นคู่ขวัญฮอลีวู้ดที่ 1 ในดวงใจเลย

เล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับหนังบ้าง

– เป็นหนังเพลงมิวสิคัล แต่บางคนอาจจะร้องอี๋ย ไม่ชอบ เบื่อ พรรณาพร่ำเพ้อไรเนี้ยะ ให้ทุกคนฉีกกฎ และลืมภาพความลำไยนั้นเองไปได้เลยว่าจะดูแล้วเบื่อ ไม่รู้เรื่อง คือหนังนี้กำกับได้ดีมาก ดูแล้วสนุก สลับกับบทพูดปกติกับมิวสิคัลได้อย่างลงตัวกลายเป็นรสอร่อย
บางคนดูหนังรักและอาจจะเบื่อถ้าทั้งเรื่องมีแต่บทพูดของตัวเอง แต่เรื่องนี้มีเพลง มีร้อง มีเล่น เต้น สลับไปทั้งเรื่อง ไม่หลับแน่นอน มันตื่นตาตื่นใจ
นางเอกของเรา ชื่อ ‘มีอา’ เป็นพนักงานประจำทีร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง ระหว่างนี้นางก็จะตะเวนไปแคสบทไปด้วย ฝันจริงๆคืออยากเป็นนักแสดง อาชีพขายกาแฟคือทางผ่านที่ทำเพื่อเลี้ยงชีพไปก่อน

พระเอก ชื่อ ‘เซบาสเตียน’ นักเปียโนเล่นตามร้านอาหารตอนกลางคืน ชีวิต loser เบอร์สุดลุ่มๆดอนๆ ไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง แจ๊สคือลมหายใจของเขา หลงใหลมันสุดๆ แต่มันก็กำลังจะตายไป เขาจึงใฝ่ฝันอยากเปิดไนท์คลับเป็นของตัวเอง และเล่นเพลงแจ๊สขนาดแท้ทุกคืนในแบบฉบับตัวเอง

พล็อตหลักๆ มีแค่นี้เอง ฟังดูเชยๆเนาะ
เป็นเรื่องของการตามหาฝันของหนุ่มสาวสองคนในนคร Los angeles

That’s LA. They worship everything and they value nothing.

— Sebastian (La La Land)

ผู้กำกับฉลาดตรงที่เอาฉาก โลเคชั่น ที่พราวแพรวของยุควินเทจมาเล่นในหนังได้สมบูรณ์มาก คุมโทนยุคคลาสสิกกับโมเดิร์นกับภาพตลอดทั้งเรื่อง สไตล์และการออกแบบของหนังได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเพลงฝรั่งเศส ของยุค 60’s และที่อยากปาหัวใจรัวรัวเลยคือคอสตูมหนัง โดยเฉพาะเสื้อผ้าหน้าผมของนางเอก เอ็มม่า สโตน ปกติใส่อะไรก็สวย หน้าอกแบนราบ นมไม่มี แต่ก็ยังสวย ก็สวยอะใครจะทำไม ชุดเต้นรำแต่ละซีนนี้มีเอกลักษณ์และเข้ากับเอ็มม่าสุดๆ ถ้าเป็นคนอื่นมาใส่ก็ไม่ปังเท่านางหรอก!!
แถมลีลากับเต้นรำ และร้องเพลงมิวสิคัลของเอ็มม่าทำให้บทนางเอกดูเจิดจรัสทุกวินาทีเลย

ส่วนไรอัน กลอสลิ่ง (พ่อหนุ่มหนังนักรักในตำนานของฟาง) เรื่องนี้เท่ห์มาก ถึงตอนต้นเรื่องชีวิตจะดูเละๆ หน่อย แต่พอเห็นนางดีดเปียโนปุ๊ป และมีแสงไฟสาดมาจากด้านบน ฉายให้เห็นคนเดียว โอ้วโหยย เทพบุต
รชัดๆๆ (จะอวยไปไหน) ดูแล้วเชื่อว่าเขาเป็นนักเปียโนมืออาชีพจริงๆ แถมสืบมาว่าเรื่องนี้ไรอัน เล่นเองทุกฉากที่ดีดเปียโนเลยนะ ไม่ใช่สแตนอิ้งแต่อย่างใด คือต้องไปดูเองในโรง มีหลายฉากมาก

แถมมีเซอร์ไพร์สเล็กๆ โดย John Legend ด้วยค่ะ
ดูหนังเรื่องนี้เรื่องเดียว คุ้มตั๋วมากกก เหมือนได้ดูละครเพลง คอนเสริต ดีดีไปด้วยเพลิน ครบเครื่อง

ฉากแนะนำ

– เราชอบทุกซีนเลย ที่เป็นซีนฟลอเต้นรำกัน เรารู้สึกได้ถึงความตั้งใจซ้อมของนักแสดงทั้งคู่ ที่อยากออกมาให้ดี เสียงจังหวะรองเท้ากระทบกับพื้นถนน พื้นหิน พื้นในไนท์คลับ กร๊อบ ๆ แกร๊บ ๆ มันเท่ดีแฮะ อยากจะขอบคุณผู้กำกับที่สร้างหนังดีๆ แบบนี้ขึ้นมา
ทั้งหมดทั้งมวลมันก่อให้เกิดเป็นหนังสวยงามในรอบหลายๆปี และถ้าเป็นคู่อื่น ที่ไม่ใช่ไรอันกับเอ็มม่า หนังก็คงไม่ออกมาดีขนาดนี้ ทั้งส่วนสูงที่เหมือนต้องเกิดมาแสดงร่วมกัน พอเต้นรำด้วยกันและเข้าขาได้เป๊ะมาก จูบกัน ทะเลาะกันก็ด้วย555 เราเชื่อไปหมดว่าตัวละครนี้เขารู้สึกกับมันจริงๆ (อินไปไหน)
– อีกฉากนึงที่เล่นใหญ่ไฟกระพริบ และมีคนพูดถึงเยอะเลยคือ ฉาก Long Take เปิดตัวหนังในช่วงแรก ซึ่งเราเข้าโรงสายทำให้ไม่ได้เห็นแบบเต็มๆ ฉากนี้เจ๋งตรงที่ทีมงาานถึงขั้นปิดถนนไฮเวย์ใน L.A. เพื่อใช้ถ่ายทำในฉากใหญ่อันนี้เลย ต้องไปดูว่ามันยาวและอลังแค่ไหน
– แต่ถ้าแนะนำจริงๆ เลยคือฉากที่ทั้งคู่ไปหอดูดาว และเต้นรำแบบไร้แรงโน้มถ่วง
อันนั้นคือฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก recomended สุดๆๆๆ

ถ้าไม่ชอบฉากนี้ให้ทักมาด่าคนเขียนได้เลยค่ะ (ออกตัวแรง55)

✧･ﾟ:*✧･ﾟ:* Some other girl and guy
Would love this swirling sky
But there’s only you and I
And we’ve got no shot *:･ﾟ✧*:･ﾟ✧

ฟังๆ ดูเหมือนหนังจะ Happy Ending เนาะ (อ้าว)
แต่ดูจบแล้วมันก็ซาบซึ้ง อบอุ่น ยิ้นปนเศร้า และเธอจะโอดครวญกับตอนจบที่ทำให้หนังมันขยี้ใจคนดูเหลือเกิน ><
ใครดูจบแล้ว ตามธรรมเนียมคือ ไปหาเพลง Ost. มาฟังซะ
มันจะเพราะทวีคูณไปอีก 2 เท่าจากที่เธอเคยฟังมันแบบผิวเผินตอนดูในโรง
เพลง ”City of Stars” (Duet ft. Ryan Gosling, Emma Stone) ละมุนละไมซะเหลือเกิน

ไปค่ะ ไปดู <3