แนะนำร้านอาหารไทยแท้ รสดั้งเดิมใจกลางย่านอโศก มิว รีพลับบลิก (Meu Republic)

หากแวะมาทำธุระแถวตึกแกรมมี่ GMM Grammy หรือมาย่านอโศก
แล้วต้องการหาร้านอาหารดีดีสักร้าน ไว้นั่ง Hangout กับเพื่อน
ที่มีบรรยากาศดีดี เปิดดนตรีเพราะๆ แถมรสชาติอาหารอร่อย ถูกปากคนไทย
และราคาไม่แพงมาก เรามีร้านมาแนะนำค่ะ
ร้านที่ว่านี้ชื่อว่า Meu Republic (มิว รีพลับบลิค)
ตั้งอยู่ ถนนเส้นอโศกมนตรี ซอยสุขุมวิท 21 นี้เองค่ะ ก่อนถึงตึก GMM Grammy เลย

การเดินทาง
ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก ให้ออกประตูทางออกที่ 3 ค่ะ
และ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท ให้ออกประตูทางออกที่ 1
สามารถเดินมาได้ในกรณีขยันเดินในช่วงอากาศไม่ร้อนมากค่ะ แล้วแต่ตามสะดวกเลย
หรือจะนั่งวินมอไซต์เข้ามาก็ได้ ราคาประมาณ 10 – 15 บาท

บรรยากาศหน้าร้าน

มองจากถนนจะสังเกตเห็นป้าย Logo ที่แขวนอยู่ข้างหน้าร้านเป็นเอกลักษณ์เด่นชัด เป็นรูปวงกลมสีดำ ข้างในเป็นรูปนกฮูก

น่าจะสื่อถึงร้านที่เปิดตั้งแต่เช้ายันดึกเลย คือ 9.00 เช้า ถึง 24.00 เลย
ที่สำคัญร้าน Meu Republic (มิว รีพลับบลิค)  เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด
เว้นแต่ว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว long weekend ค่ะ

โดยรอบร้านจะเป็นกระจกทั้งสองด้าน ทั้งด้านหน้า และด้านข้าง
มีที่นั่งให้ลูกค้าเลือกนั่งตามอัธยาศัยทั้ง indoor และ outdoor ค่ะ

รองรับความจุได้เต็มที่ถึง 80 ที่นั่งได้แบบสบายๆ

ที่หน้าร้านจะมีเคาร์เตอร์เมนูให้ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา
แอบแวะเปิดชมเมนูของร้านได้คร่าวๆ ก่อนตัดสินใจเข้ามาทาน
พร้อมทั้งบอกโปรโมชั่นเมนู – เครื่องดื่มของประจำเดือนนั้นๆ
อย่างเช่นตอนที่เราไปมี โปรโมชั่นเบียร์ SINGHA ซื้อ 2 ฟรี 1 ค่ะ

แอบสืบมาว่าเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์นี้
มีเมนูแนะนำใกล้เทศกาลวันวาเลนไทน์สุดโรแมนติก
พาคู่เดทของคุณมาทานอาหารไทยอร่อยๆ รับรองฟินกุ้งกันทั้งคู่
เพียงแค่มากับคนรักและทานอาหาร 1,000.- บาทขึ้นไป
รับไปเลยค่ะ “เลิฟม็อกเทล 2 แก้ว”

เราชอบ Poster หน้าร้านที่เป็นรูปถ่ายเมนูแนะนำมาก ดูจานใหญ่อลังการ น่ากินดี
และราคาอาหารเริ่มต้นแค่ 80 บาทเอง

สังเกตได้ว่าเมนูเน้นหนักวัตถุดิบไปทางกุ้ง ทั้งกุ้งแม่น้ำ/กุ้งสดตัวใหญ่ๆ
แต่ของจริงจะใหญ่เท่ากับรูปหน้าร้านไหมนะ ต้องลองเข้าไปชิมกันดู!

เข้ามาในร้านกันเถอะ

บรรยากาศด้านในจะเน้นผนังเป็นปูนสีขาว และใส่เฟอร์นิเจอร์เป็นสีดำ ตัดกับสีผนัง
ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟดวงสีส้มทอง
มีมุมเคาร์เตอร์บาร์ด้านหน้ากระจก

สำหรับผู้ต้องการหันหน้ามองออกชมถนนอโศกมนตรีเพื่อความเป็นส่วนตัวให้เลือกนั่ง
หันหลังกลับมาจะเป็นคล้ายๆ โถงด้านล่าง มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ
ตรงนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับรองรับการจัดปาร์ตี้สังสรรค์เป็นหมู่คณะได้

ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงบริษัท งานวันเกิด งานเลี้ยงรุ่น วันสำคัญครบรอบ
หรือหากน้องนักศึกษา มศว. จะใช้เป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับหรืออำลางาน ทั้งรับปริญญา
หรือสายรหัสก็สามารถมาลองคุยกับพี่เจ้าของร้านที่นี่ดูได้ค่ะ ใกล้มอ และสะดวกมากมาก

นั่งคุยกับเจ้าของร้าน Meu Republic

เดิมทีที่ตรงนี้แต่ก่อนจะเป็นร้าน “ครัวทองใหม่” ซึ่งเป็นร้านขายข้าวแกงที่คนย่านนี้ ชอบทานเป็นประจำ และอยู่คู่กับพนักงานออฟฟิศบริเวณนี้นานกว่า 20 ปีแล้ว ทำให้เจ้าของร้านเล็งเห็นถึงรสชาติและความอร่อย จึงตัดสินใจ Rebranding ใหม่ จากครัวทองใหม่ เป็น Meu Republic แต่รสชาติยังคงอร่อยเหมือนเดิม โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศบริเวณนี้ก็ยังคงติดใจรสชาติดั้งเดิมอยู่ แต่ที่เพิ่มเติมคือวัตถุดิบที่ใช้ ซึ่งทางร้านเน้นคุณภาพและใส่ใจในรสชาติเพื่อให้ทุกคนได้กินแต่ของดีๆ อย่างกุ้งก็เลือกเองจากบ่อเลี้ยงโดยตรง ขนาดเท่ากับกุ้งแม่น้ำอยุธยา แต่ราคาถูกกว่าที่จะเดินทางไปกินที่นั่นอีก โดยคุณภาพและรสชาติไม่ต่างกันเลยเหมือนยกกุ้งแม่น้ำอยุธยามาไว้ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อาหารทุกเมนูพิธีพิถันในการปรุงเป็นอย่างมากเพื่อใหได้รสชาติที่ถูกปากคนเมืองกรุง และมั่นใจกับความสะอาดจากระบบน้ำรีเวิร์สออสโมซิสที่ใช้ล้างวัตถุดิบและอุปกรณ์ ทุกชิ้น จึงรับรองได้ว่าทุกคำที่คุณได้ทาน อร่อย สด และสะอาดอย่างแน่นอน…

หิวแล้ววว.. 🙂

มาชิมอาหารกันดีกว่า

เมนูแรก “กุ้งแช่น้ำปลา” (160 THB)

แค่เห็นรูปและคิดถึงรสชาติได้กินไปวันนั้นก็เปรี้ยวปากแล้ว
คือเราเป็นพวกชอบกินของดิบมาก พวกปลาดิบไรงี้ (จริงๆ กินมากก็ไม่ดีแหละ)
และของดิบที่มันไม่สุกเนี้ยะ ถ้ามันไม่สดจริง มันดูง่ายมากเลยนะ
ถ้าเนื้อมาหยุ่ยๆ เละๆ อันนี้ไม่กินอยู่แล้ว เสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ
ฉะนั้นถ้ามันไม่สดเราจะไม่กิน

กุ้งแช่น้ำปลาที่นี่เด็ดจริง กุ้งตัวใหญ่และสดมาก เนื้อแน่นเด้ง ใส กดลงไปจะไม่นุ่มเละ
1 จานมี 5 ตัวแน่นแน่น พร้อมผักเครื่องเคียงที่สด กรอบ เย็น มาให้แบบเต็มจาน
โรยหน้าโดยเครื่องยำน้ำจิ้มรสแซ่บปาก มีมะม่วงซอยมาประปรายให้เปรี้ยวเข็ดฟันเล็กๆด้วย
#ชอบสั่งเป็นกับกับแกล้มจานนี้ไม่ผิดหวัง มีห้าตัวก็หมดห้าตัวในเวลาอันรวดเร็วค่ะ

เมนูที่สอง “ขาหมูต้มเค็มและหอมดอง” (180 THB)

หน้าตาอาจจะคล้ายขาหมูพะโล้ทั่วๆ ไป แต่ที่นี้จะเป็นสูตรโบราณไทยแท้ ซึ่งปกติขาหมูที่อื่นส่วนมากจะเป็นสูตรที่มาจากจีนซะส่วนใหญ่ค่ะ ขาหมูต้มเค็มจะรสชาติคล้ายปลาต้มเค็ม คือเค็มนำหวานตาม ใช้เครื่องเทศไทยล้วน กลิ่นหอมมาก แนะนำว่าให้สั่งมาทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ จะทานได้อร่อยกว่าทานเดี่ยวๆนะคะ

ภายในจานมีผักคะน้า และเสริฟพร้อมหอมใหญ่ และน้ำจิ้มไว้แก้ตัดเลี่ยนให้ด้วยค่ะ

ต่อมาเป็นเมนูที่ทางร้านเขาอยากเต็มใจเสนอให้ลองชิมมาก ๆ
เป็น “กุ้งแม่น้ำเผาซอสมันกุ้ง” (299-399 THB)

จานนี้เลยเสริฟมาด้วยกุ้งคู่นี้ พร้อมน้ำจิ้มสามรส ตกแต่งจานด้วยผักกาดหอม
ชอบตรงที่ซอสที่ราดมาบนตัวกุ้ง ซึ่งเป็นซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่นำไปคลุกกับตัวมันกุ้ง มันดีย์!

ถัดมาอีกสองจาน เป็นเมนูที่เรากินจนเกลี้ยงจนเลย
คือ “หมี่ผัดกระเฉดกุ้งกระเทียมดอง” (140 THB) กับ “ผัดไทเส้นจันทร์กุ้งสด” (140 THB)

ชอบม้ากกกกกกกก อร่อยจริงจัง เป็นเมนูที่ขายดิบขายดีในช่วงนี้ด้วย ใครมาก็ต้องสั่งสองเมนูนี้ค่ะ ไม่แปลกใจเลย เราเป็นพวกชอบกินเส้น (Noodle Lover) อยู่ด้วยแล้ว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน อะไรพวกนี้ สามารถกินได้ทุกมื้อ พอมาเจอหมี่กระเฉดกุ้ง แต่ปราศจากกระเทียมดอง (สงสัยพ่อครัวลืมใส่มาให้ ไม่เป็นไร) จานนี้ หลงรักเลย ผัดหมี่ได้ร่วน และกระเฉดไม่แข็ง เป็นยอดอ่อนๆ ที่เคี้ยวได้ไม่เจ็บฟัน บวกกับเนื้อกุ้งที่เด้ง ตัวใหญ่กว่าที่คิด ปกติเคยกินแต่กุ้งตัวน้อยๆ จิ๊ดริด รสชาติถูกปากคนไทยแน่นอน เราเจอมาหลายร้านที่บรรกาศร้านไฮโซราคาจานละ 100++ แต่เขาจะผัดรสชาติเอาใจชาวต่างชาติ ซึ่งจะออกรสไม่จัดจ้าน และส่วนผสมไม่ครบเครื่องเคียงแบบไทย กินแล้วมันหงุดหงิด
กินไปแล้วก็ไม่สุด ไม่หายอยากจริงๆ  แต่พอมาเจอผัดหมี่กระเฉดกุ้งของที่นี่ ยกให้เป็นอีกจานที่อยากให้ทุกคนมาลองชิมดูค่ะ

ทางด้านผัดไทเส้นจันทร์กุ้งสด เมนูสองศรีพี่น้องคลานตามกันมาก็ไม่น้อยหน้า
ภาพลักษณ์หน้าตาดูดีมาก สวยรูปจูบหอมแน่นอน

เส้นจันทร์เหนียวนุ่ม ไม่จับเป็นก้อนแข็งๆ เขาผัดแบบน้ำซอสมันซึมเข้าไปเนื้อเส้นจันทร์เลยและกุ้งมันสดกินกับอะไรก็อร่อยอ่ะ
ผักเครื่องเคียงจัดเต็มมาให้กับ ถั่วงอกขาวอวบ ต้นหอม และผักแว่น #ปาหัวใจใส่รัวรัวให้เมนูนี้

มาถึงเมนูสุดท้าย (ท้องใกล้จะแตกแล้ว)
เป็นเมนูซดร้อน ให้คล่องคอ “ไก่ต้มขมิ้น” หลายคนจะชินกับการสั่งต้มยำกุ้งเป็นเมนูต้ม สำหรับมื้ออาหารหนักๆ

มาร้านนี้ลองสั่งเมนูนี้ดู กินได้ลื่นลื่นคอดี รสชาติจะเปรี้ยวๆหน่อย กลมกล่อม มียอดอ่อนใบมะขามด้วยนะ
ไก่ก็มาเป็นเนื้อชิ้นๆ เยอะมาก ไม่ได้มาเป็นกระดูกให้แทะติดคอจ้า

เอาแต่พูดถึงอาหารคาวกันมาซะเยอะ
ไม่ได้พูดถึงเครื่องเดิมเลยเนอะ
ที่นี้มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายมาก ตั้งแต่น้ำอัดลม เบียร์ ยัน cocktail แปลกๆ ที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเอง

ตู้โค้กสีแดงที่ตั้งอยู่ริมผนังด้านข้างของร้าน ไฟถูกเปิดให้สว่างตลอดเวลา
ด้านในมีทั้งน้ำอัดลมสี เบียร์ไทย เบียร์นอก ฯลฯ

ถัดมาใกล้ๆ จะเป็นบาร์ลายหินอ่อน เป็นโซนเครื่องดื่มแอลกฮอลล์
ที่มีเสริฟไซเดอร์ยี่ห้อ BROTHERS ด้วย ซึ่งเป็นคล้ายเบียร์ผลไม้ Toffee Apple
ทั้งถนนเส้นอโศกมนตรีนี้ มีร้านนี้ร้านเดียวที่ขายเบียร์ของ BROTHERS

กลิ่นท๊อฟฟี่เข้มข้น อบเชย กานพลู และครีมโซดา เป็นเอกลักษณ์ในบรรดาไซเดอร์ BROTHERS
มีรสชาติหวาน หอม ๆ ผลไม้ ดื่มง่าย ไม่ฝาด
ปกติเวลาดื่มเบียร์ผลไม้บางครั้งรู้สึกว่าจะมีรสฝาด ๆ ติดลิ้นอยู่แต่อันนี้ไม่มีนะ
หลังจากดื่มไปแล้วจะมีรสกับกลิ่นหวาน ๆ ติดอยู่
แต่ถ้าคนที่ไม่ค่อยชอบเบียร์ผลไม้อาจจะเกลียดเลยก็ได้เพราะว่ารสชาติออกหวานพอควร 

และอีกยี่ห้อนึงจะเป็นเบียร์ SIGNHA ที่เราคุ้นเคยกันดี
มีโอกาสได้ทดลองชิม cocktail shot ฝีมือพี่เจมส์ด้วย
ตัวนี้จะชื่อว่า “Hemorrahagic Stroke” ต้องกระดกกลิ่นภายในแก้วช็อตอึกเดียวเลย

รสชาติจะออกหวาน เหมาะสำหรับผู้หญิงทานค่ะ 
เอกลักษณ์ของตัวนี้จะอยู่ที่ลายของ Layer คือลายชั้นด้านในที่จะเป็นเส้นๆ เหมือนหินงอกหินย้อยเลย

แวะมาลองกันได้จ้า <3

Comments

comments