รีวิวหนัง A Star is Born พล็อคอาจจะน้ำเน่า แต่ดีเหลือล้น แค่ไปดู Lady Gaga ร้องก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว ออสก้าร์มาแน่

Warning Spoil

ก่อนเข้าโรงเพื่อนบอกเตรียมเสียน้ำตามายัง?
พูดยืดอกด้วยความมั่นใจกับเพื่อนว่า
“ไม่น่าสะเทือนหรอก ยากที่จะดูหนังแล้วจะร้อง สบ๊ายยย”

😉

แต่สภาพหลังออกจากโรงคือ ซึมและดำดิ่งไม่หยุด น้ำตาคลอเบ้าเล็กน้อย
ไม่เคยดูหนังรักเรื่องไหนแล้วน้ำตาคลอมาก่อนเลย
ปกติจะแพ้แค่หนังเด็ก กับหนังหมาที่จะร้องไห้ฟูมฟาย
และรีบกลับมาหา Ost. ฟังต่อให้อินกับอารมณ์หนังอย่างต่อเนื่องใน Spotify ปรากฎว่าน้ำตาแตก แง

A Star is Born อารมณ์หนังโรแมนติก ดราม่า
ถ้าชอบ Begin Again ต้องชอบเรื่องนี้
เราว่าเรื่องนี้ซีนอารมณ์ดีกว่าเยอะ เนื้อหาเพลง เคมีนักแสดง กินขาด
Begin Again เราดูแล้วไม่ได้เข้าถึงความสัมพันธ์ของพระเอก นางเอกเท่าไหร่
แต่ที่ชอบคงเป็นเพลงประกอบหนังซะมากกว่า ที่ทุกวันนี้ก็ยังแอบฟัง แล้วร้องตามได้เกือบทุกเพลง

แกคือ A Star is Born ฉันไม่อ่านตัวอย่างหนัง หรือดูคำวิจารณ์อะไรใดใดมาก่อนเข้าโรง แค่เพื่อนชวนดูและเห็นโปสเตอร์ผ่าน ๆ ตา และคุ้นตอนดูตัวอย่างหนังในโรงนิดหน่อย แต่กลิ่นมันบอกว่าหนังเรื่องนี้จะดี และถูกจริตเรา 

ไม่ได้ไปดูเพราะงานแสดงของนางเอกที่แสดงโดย Lady Gaga
แต่แกเลดี้ กาก้าเล่นดีมาก ภาพจำเราคือเป็นนักร้อง แต่งหน้าจัด แฟชั่นหลุดโลก
(ยังจำชุดนางที่เอาเนื้อหมูจริงมาแปะเป็นชุดราตรีได้)
แต่ในหนังคือหน้าสดจ้า และหน้าดี คิ้วสวย จมูกพุ่ง
ชอบลุคสบาย ๆ ของนางมาก เรื่องร้องไม่ต้องพูดถึง ร้องดีจนขนลุก
เปลี่ยนสไตล์ได้แบบ ฉีกจากภาพลักษณ์ที่คุ้นเคยของเราออกไปเลย
มันทำให้คิดว่านักร้องคนนี้ไม่ได้ขายแค่แฟชั่นที่ชูตัวเองออกให้คนสนใจ
แต่เสียงร้องต่างหากที่คือจุดขายจริงของนาง

มีหลายซีนที่ออกมาจากโรงแล้วมานอนคิดต่อว่า โห..ซีนนี้สุดจริง
– เพื่อนพระเอกเปรียบเทียบการหยุดเลือกใครสักคน
เหมือนชีวิตที่ผ่านมาลอยอ้างว้างในทะเลมาเรื่อยๆ
จนวันนึงเจอเกาะ คิดจะพักสัก 2-3 วัน
แต่กลายเป็น 2 เดือน 2 ปี 20 ปี รู้ตัวอีกที
เราจำไม่ได้แล้วว่าตอนแรกเราฝันอยากไปที่ไหน
แต่เราสบายใจที่ตรงนี้ หลังจากนั้นพอพระเอกฟังปุ๊ปเขาก็ไปขอนางเอกหมั้น
โดยการไปตัดสายกีต้าร์มาทำเป็นแหวนสวมให้นางเอก
แกรรรรรรรร……ยอมแล้ว ความมินิมอลนี้ ไม่พูดเยอะเจ็บคอ

– หลายเหตุการณ์ที่เราเดาไม่ถูกว่า
แอคชั่นการตัดสินใจของตัวละครจะเป็นแบบไหน
แต่เห็นชัดถึงความรัก ความเสียสละของคนสองคนที่พยายามจะประคับประคองมันไป
ชอบตอนที่พระเอกแอบเขียนเพลงให้นางเอก
แล้วนางเอกไปเจอเนื้อเพลงในกระดาษ และบอกกะจะให้แหละ เพลงนี้
แต่อยากให้เธอฟัง ในวันที่เธอกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เพราะแอลลี่ (กาก้า) ชีวิตเปลี่ยนไปสู่จุดที่ไปไกลแล้ว
ในขณะที่พระเอกก็ขาลงดิ่งเรื่อยๆ
มันจึงกลายเป็นเพลงที่ชื่อว่า I’ll Never Love Again
ฉากจบคือนี่แหละที่ทำให้น้ำตาไหล ขยี้แรงกว่านี้
นานกว่านี้ หรือใส่ภาพอดีต ภาพจังหวะสุดท้ายที่พระเอกตัดสินใจ
มีแว่วว่าเราจะสะอึกสะเอื้อน!

คือต้องดูอะ มันมีช่วงที่เราเอื่อยๆ ลำไยอยู่บ้าง แต่ทุกฉากมันมีเหตุมีผล
สังเกตดีดีแล้วจะรู้ว่าบทมันลึกกว่าที่จะดูผ่านๆ และคือด้วยความมันเป็นหนังเพลงช้ะ
Ost. ก็ปล่อยมาโครมครามทั้งเรื่อง แกต้องไปดูในโรงเท่านั้น
รอปล่อย netflix จะไม่อิน เพราะโรงเสียงมัน surround รอบโรง
ฉากขึ้นคอนเสริตต่างๆ มันคุ้มค่าตั้วแล้วอ่า เหมือนเราไปนั่งในคอนร่วมด้วยจริง ๆ
แนะนำให้เสียเงินดูโรงที่ระบบเสียงดีดีหน่อย จนดื่มด่ำกับอรรถรสเพลงในหนังดียิ่งขึ้น