เป็นหนังที่ดูแล้วอย่าไปคาดหวังอะไรมากดูเพลินๆ ดูได้เรื่อยๆ ออกแนว Action Romantic ติด Comedy นิดๆ
American ULTRA เป็นชื่อโครงการของ CIA ที่เอานักโทษที่เคยติดคุกสถานเบามาฝึกให้เป็นนักฆ่า แต่โครงการโดนล้มเลิกไปซะก่อน
โดยพระเอกของเรื่องชื่อ ไมค์ (Jesse Eisenberg พระเอกจากเรื่อง The social network) ปูเปิดเรื่องราวทั้งหมดของหนังด้วยการตัดฉากเป็นภาพ Summary แบบ Time Lapse ในคืนหนึ่งของไมค์
และเล่าว่าไมค์เป็นพนักงานสะดวกแห่งหนึ่ง หน้ามึน ๆ ติดกัญชา ชีวิตผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และดูจะไม่มีอนาคตด้วยซ้ำ ทั้งเคยติดยา กลัวการขึ้นเครื่องบินสูง แต่ชีวิตเขามีสิ่งดีๆอยู่อย่างหนึ่งน่าจะเป็นความหมายเดียวในชีวิตเขาก็คือแฟนสาว ฟีบี้ (Kristen Stewart นางเอกแวมไพร์จากเรื่อง Twilight) ทั้งคู่เป็นคู่รักฮิปปี้ ที่อาศัยอยู่ในบ้านเล็ก ๆ เกือบชานเมืองแห่งหนึ่ง แต่เราชอบบ้านนะ เป็นหลังทาสีฟ้าชั้นเดียว มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าบ้าน มีครัวเล็กๆ ดูอบอุ่นดี
ไมค์นี่รักฟีบี้มาก จนกล่าวว่า ผมแทบจำไม่ได้เลยว่า ชีวิตก่อนจะเจอเธอนั้นเคยเป็นอย่างไง (ง่อววววว) เรานึกถึงเพลง เธอทั้งนั้น – Groove Rider ตรงท่อน..
และเขาแพลนไว้ว่าจะขอเธอแต่งงานในเร็ว ๆ นี้ โดยเตรียมแหวนหมั้นไว้แล้ว หลาย ๆ ครั้งที่เขาคิดว่าฟีบี้น่าจะได้เจอที่ดีกว่าเขา และมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่เขาก็พยายามทำตัวเป็น better man (ชอบคำนี้จัง) ที่ดีของเธอมาโดยตลอด
พระเอกกับนางเอกนอนดูดาวคุยกันอยู่บนกระโปรงหน้ารถเก่าของเขา
ส่วนฟีบี้เปรียบเสมือนรถคันนั้น
ที่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ แต่กลับต้องมาจมอยู่กับเขา ซีนนี้ก็จบลงด้วยการจูบกันมั้ง ถ้าจำไม่ผิด
โรแมนซ์ม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เป็นซีนที่ดีอีกซีนนึงของหนังเรื่องนี้เลย ><
เราชอบการเปรียบเทียบโดยการเล่าเรื่องของไมค์นะ หนังไทยไม่ค่อยนำเสนอวิธีการเล่าของตัวละครแบบนี้เท่าไรนัก เราว่ามันมีเสน่ห์ออก
แต่แล้วคืนนึง ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาค้นพบว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คนปกติธรรมดา เขาเคยเป็น สายลับนักฆ่ามือหนึ่ง ที่ถูกฝึกมาอย่างโชกโชน ฝืมือการต่อสู้ของเขาเก่งกาจจนตัวเองยังตกใจว่านี่กูทำไรลงไปเนี้ยะ พอฆ่าคนไปได้ 2 คนแรกด้วยความงุนงง พระเอกของเราก็ประสาทแดกไปพักใหญ่เลย พร่ำเพ้อว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์สังหารบ้าง ย้ำคิดย้ำถามกับฟีบี้ว่าเขาเป็นคนรึป่าว ประเด็นคือไมค์น่าจะเมากัญชามากกว่านะ 555555555555
บางฉากเหมือนจะโหด แต่นี่ก็ขำในความผิดปกติของตัวละคร แบบเชี่ยไรของมึงเนี้ยะ ไหวไหม /ฮา
หนังมันเกรียนปนรั่ว ทั้งเรื่องจะได้ยินมันพูด Fuck Fuck shit shit กันชินหู พระเอกเหมือนจะกากในตอนช่วงแรก ๆ แต่พอถูกปลดล็อคพลังอะไรบางอย่างในตัวปุ๊ป บู๊แหลกลานเลยค่ะ เห็นอะไรอยู่รอบตัว วางอยู่ สามารถหยิบเอามาเป็นอาวุธ และใช้ฆ่าคนได้อย่างช่ำชอง ไม่ว่าจะเป็นช้อนส้อน กะทะ (ชอบฉากนี้) มีด ค้อน ที่โกยขยะ ถังดับเพลิง พลุดอกไม้ไฟ ฯลฯ
ส่วนนางเอกของเรา Kristen Stewart หลายคนอาจจะติดภาพลักษณ์จากหนังเรื่องแวมไพร์ในบทบาทของเบลล่าหน้างัวเงีย แต่เรื่องนี้บุคลิกจะดูมอมแมมขึ้น ลุยลุย ดูดบุหรี่ เซอร์ อารมณ์แบบผู้หญิงเพิ่งตื่นนอนแล้วไม่ได้สระผมมาหลายวีค มีฉากบู๊เตะต่อยพอประมาณให้ได้ดูกัน มีซีนที่นางแอบน่าฟัดอยู่นะ คือตอนที่ไมค์นึกถึงภาพเธอในความคิด แล้วหนังก็ตัดภาพเป็นซีน make love กันบนเตียงของทั้งคู่ แต่เห็นแค่ช่วงหน้าอก เท้า กับแววตาบนใบหน้าที่ดูแล้วเซ็กซี่ สวยดี ชวนให้จินตนาการต่อ
พล็อตเรื่องคือเดาได้แหละว่ามันจะจบยังไง ถ้าดูแบบไม่คิดอะไร ก็สะใจ จบแบบ Happy Ending ดี สุดท้ายคือไมค์ก็ขอฟีบี้แต่งงาน ซึ่งคิดว่าถ้าใครได้ดูฉากต้องรู้สึกเหมือนเราว่า โหยยยยยยยยยยย มึง เป็นการขอแต่งงานที่พีคมาก เอาใจไปเลยค่ะ แนะนำให้ไปหาดูเลย เรามั่นใจว่ามันเป็นการขอแต่งงานในแบบที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำแบบนี้มาก่อน ปา like ใส่หน้ารัวรัว เหมาะที่จะร้องเพลง “คนไม่เอาถ่าน – big ass” ให้กับไมค์ อ่ะเพลงมา
“ขอบคุณจริง ๆ ที่เธอยังรัก ไม่เคยเปลี่ยน
ถึงฉันจะดี จะเลวขนาดไหน” <3
..
จบเยะ -3-
Be First to Comment