Director: Tomoaki Akune
Region: Japan
Genre: Drama
อาหารคือหลักฐานความรัก และการทำอาหารก็คือการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง
ใครที่ยังมีคนคอยทำอาหารให้กิน ไม่ว่าจะเป็น แม่ พ่อ หรือแฟน มันน่าอิจฉามาก
ทุกวันนี้เขาก็ทำกันทุกวิถีทางที่จะลดขั้นตอนการทำอาหารที่มันยุ่งยาก
และให้เหลือ process ที่สั้นและประหยัดเวลาที่สุด เสน่ห์การทำอาหารมันหายไปหมดเลยนะ
มันมีกฎในการกินอาหารที่ดีอยู่ข้อนึง ดูในรายการเจาะใจ
ป๋าเต็ดแกมานั่งพูดบอกว่าดูสารคดีเกี่ยวกับการทำอาหารมาเขาบอกว่า
มันง่ายมาก คือคุณอยากจะกินอะไรก็ได้กินไปเลย
แต่มีข้อแม้ว่าอาหารที่คุณกินไปนั้น คุณต้องลงมือทำได้ตัวเอง
ยากเนาะ เดินเข้าไป 7/11 บอกพนักงานเวฟข้าวกล่องให้หน่อยค่ะ ง่ายกว่าเยอะเลย
แต่การทำอาหารกินเองมันดีตรงไหนรู้ไหม?
ตรงที่เราเลือกทุกอย่างที่ใส่ปาก และเข้าไปในท้องด้วยมือเราเองล้วนๆ
เครื่องปรุง วัตถุดิบ สารอาหาร
เราสามารถกรองเองได้หมดว่าเราอยากให้เรากินแล้วมันส่งผลต่อร่างกายเราอย่างไง
อาหารอุตสาหกรรม มัน Short Cut เบ็ดเสร็จให้เราสะดวกใน ณ เวลานั้น แค่นั้นจบ..
แต่ระยะยาวละแก ร่างกายเราจะโอเครึป่าว สะสมไหมนะ โซเดียมเอย สารกันเสียเอย ผงปรุงรสเอย #จ้า
พูดละก็อยากกลับไปบ้านปลูกผักกินเอง :3
เกริ่นมาซะยาวเชียว ไม่ได้พูดถึงหนังเลย ฮ่า
Hana’s Miso Soup : มิโซะซุปของฮานะจัง
เป็นหนังดราม่าครบสูตร กลิ่นอายญี่ปุ่นจ๋า อบอุ่นปนเศร้าเคล้าน้ำตา
เหมือนไม่ต้องสปอย ทุกคนก็พอจะเดาตอนจบได้ใช่ไหม ว่ามันจะจบอย่างไง #ใช่
พล็อตเรื่องไม่ได้แปลกใหม่
แต่การดำเนินเรื่องระหว่างทางที่จะเป็นถึงจุดสิ้นสุดของหนังที่ให้เราคล้อยตามไปด้วยตลอดทั้งเรื่อง
คือดูจบแล้ว เราเดินไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อมิโซะซุปแบบซองมาต้มกินเองเลย มันอยากกินขึ้นมาทันที
หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงของ Bloger สาวที่ญี่ปุ่นคนนึง
จิเอะ ยาสึตาเกะ (Chie Yasutake) เป็น Base on true story แบบแทบจะ 100% เลยก็ว่าได้มั้ง
เธอเป็นแม่ที่เลือกจะเสี่ยงชีวิตตัวเอง เพื่อให้กำเนิดอีกชีวิตนึงต่อ แสนจะโชคดีที่เธอได้สามีดีมาก
(ชินโงะ) ถึงเขาจะรู้ว่าจิเอะป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ก็ยังอยากจะอยู่ด้วยกันต่อ
และพร้อมที่จะแต่งงานด้วย คือตอนแรกเขาก็พากันไปรักษาตัวให้หายจากมะเร็งละแหละ
โดยการกินอาหารทำนองแบบชีวจิต และใช้ชีวิตตามสูตรที่ว่า นอนเร็ว ตื่นเช้า กินข้าวกล้อง
และก็ทานแต่อาหารที่มีประโยชน์โดยเลือกเป็นอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ และทำกินเองทุกวัน
ในหนังเราจะเห็นอาหารที่ครอบครัว ยาสึตาเกะ (Yasutake)
นี้ทำกินเอง หลักๆ เขาจะเน้นทานข้าวกล้อง ปลาย่าง มิโซะชิหรุ (味噌) หรือซุปเต้าเจี้ยว
ไช้เท้า/บ๊วยดอง นัทโตะ ขนมข้าวกล้อง แต่ละอย่างน่าทานมาก มันก็ดูคลีนด้วยนะ
เอาจริงปะ อาหารเอเชียมันเกิดมาเพื่อคนเอเชีย เช่น อาหารไทยแท้ๆเนี้ยะ ดีที่สุดแล้ว
ใครจะลดน้ำหนักให้ทานพวกข้าวปลาทูนึ่งกับผักต้ม, ส้มตำ, แกงเลียง, กล้วยน้ำว้า อะไรอย่างเงี๊ยะ
ไขมันน้อยจะตาย แต่เราจะไปอ้วนกันเพราะอะไรอะ
เพราะไก่บอนชอนที่เยียวยาทุกอย่างในชีวิต
เฟรนฟรายแมคลด 50% ไซส์จัมโบ้
บาบิกอนเทศกาลหมูคุโรบูตะ
เนี้ยะมันไปอ้วนเพราะไอ้ของแบบเนี้ยะซะมากกว่า
ชีวิตของจิเอะหลังแต่งงาน ก็แอบลังเลนิดนึงว่าจะมีลูกเลยไหม
คือนางก็ไม่ได้อยากมีหรอก เพราะตอนที่หายจากมะเร็งแล้ว
หมอก็บอกว่ามันยังมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีกนะ ถ้าปล่อยให้ตัวเองตั้งท้อง
ฮอร์โมนเพศหญิงจะพุ่งสูงขึ้น แล้วทำให้มะเร็งมันกลับมาได้อีกครั้ง
ทางด้านสามีของเธอ ชินโงะอยากมีลูกมากเพื่อเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายของครอบครัว
แต่มันก็เสี่ยงที่จะต้องสูญเสียคนที่รักไป
มันจึงมี Quote ในหนังเท่ห์ ๆ ว่า “Risk a life to make a life.” จงเสี่ยงชีวิตเพื่อสร้างชีวิต
โอเค มีก็มี
สุดท้ายก็สมกับการรอคอบ ได้ลูกสาวมา 1 คน ชื่อฮานะจัง นางฟ้าตัวน้อยมากกกกกกกกก #จุดพลุ
นำแสดงโดยน้องเอมินะ อาคามัทสึ (Emina Akamatsu)
แจกความสดใส All Day All Night ม้ากกกกกกกกกกกก
มีความ Cute มองในแง่ดี ร่าเริง และบุคลิกน่าเอ็นดูสมวัยเด็ก 4 ขวบ
หลังจากนั้นจิเอะเชื่อในการรักษาสุขภาพที่ดีด้วยการกินอยู่ที่ดี
เธอตัดสินใจที่จะสอนให้ฮานะทำเมนู Signature ของบ้าน นั่นก็คือ “มิโซะซุป”
ให้ทำได้เป็น จะได้มีชีวิตรอด ในวันที่แม่ไม่อยู่กับหนูแล้ว T^T
และไม่ใช่แค่มิโซะอย่างเดียวฮานะยังต้องเรียนรู้การทำเบนโตะ
การดูแลบ้าน พับผ้า เก็บผ้า และคอยเป็นแม่บ้านแทนแม่ดูแลคุณพ่อให้เหมือนกับที่แม่เคยทำให้ได้มากที่สุด
เด็กวัยเดียวกันนี้อาจจะได้กินขนมขบเคี้ยว เยลลี่ ลูกอม ของหวาน
แต่ฮานะถูกสอนมาให้กินอาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น
พ่อแม่อยากให้เขาเติบโตมาเป็นเด็กที่แข็งแรง และไม่เจ็บป่วยเหมือนแม่ตัวเอง
โดยจะทาข้าวสวยกับซุปมิโซะ เพื่อจะได้ไม่เป็นหวัด และไม่ป่วยง่าย
และฮานะจังจะต้องทำมิโซะซุปทุกมื้อ และทำแต่ละที จะมาทำเล่นๆไม่ได้นะจ้ะ
ต้องตั้งใจทุกมื้อเพื่อให้ได้มิโชะที่รสชาติเหมือนกับที่แม่ทำให้มากที่สุด
สิ่งที่ประทับใจในหนัง
ฉากที่จิเอะผูกผ้ากันเปื้อน ต้มซุปมิโซะร้อนๆ ตักใส่ถ้วย เพลินตาที่ได้เห็นฮานะจังวิ่งไปเด็ดผักริมระเบียง ค่อยๆ หั่นแครอทบนเขียง สองแม่ลูกช่วยกันทำซุป มือน้อยๆ ของฮานะจังกับอุปกรณ์ทำกับข้าว เสร็จและเดินถือถ้วยซุปมาให้พ่อได้ลองซดฝีมือดู น่าเอ็นดูอะ ><
นี่เป็นหนึ่งในหนังครอบครัว ที่ควรค่าแก่การหามาดูเป็นอย่างยิ่ง หนังมันไม่ได้เศร้าฟูมฟาย หรือเค้นให้เราจิตตกในภาพลักษณ์ของผู้ป่วยมะเร็งว่าจะต้องตาย เราคิดว่าอาหารจากฝีมือแม่เป็นสูตรที่วิเศษ ทำให้เด็กๆทุกคนเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรง ถึงวันนี้ฮานะจังจะไม่มีแม่อยู่แล้ว แต่รสมือของแม่จะคงอยู่ในทุกมื้ออาหารของเธอตลอดไป
แถมรูปน้องฮานะ กับคุณแม่จิเอะตัวจริง ไปให้ดูด้วยละกัน
Be First to Comment