ดูหนังเรื่อง The Light Between Oceans นี้ เหมือนได้ไปพักร้อนตากอากาศชายทะเลไกล ๆ สักที่นึง
ซึ่งที่ทำให้ผ่อนคลายตลอดทั้งเรื่องคือ Location สถานที่ถ่ายทำสวยมากกกกกก
สืบมาว่าไปถ่ายที่นิวซีแลนด์กับออสเตรเลีย สถานที่ถ่ายทำเดียวกับหนังเรื่อง Habbit
ภาพที่ออกมามันเป็นวิวที่ไม่มีในประเทศไทยอะ ถ่ายที่เกาะ Tasmania รัฐตอนใต้ของทวีปออสเตรเลีย
โอ้วโหยยยยยยยยย เหมือนเปิดเลนส์ส่องโลก แค่เป็นดูวิวในเรื่องก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว
มันไม่เหมือนเกาะเสม็ด เกาะช้างไรงี้อ่ะ พวกหญ้า ต้นไม้ ก้อนหิน ลมแรงๆตีหน้าตัวละครในเรื่อง จนเรารู้สึกตึงแทนไปด้วย
พล็อตของหนัง อ้างอิงมาจากนวนิยาย (อีกแล้ว) ขายดิบขายดี
The Light Between Oceans ชื่อไทยว่า “อย่าปล่อยให้รักสลาย”
ฟังแล้วน้ำเน่า เลี่ยน เหมือนหนังหม่อมน้อยเลยเนาะ 🙂
“Warning Spoilers”
เล่าแบบเร็วๆ ก็คือมีคู่รัก 2 คน ชายหญิง ชื่อทอม (Michael Fassbender) กับอิซซาเบล (Alicia Vikander)
พื้นเพภูมิหลังทอมเป็นทหารผ่านศึกสงครามมา บุคลิกนิ่ง ตายด้าน เนี๊ยบ ยิ้มยาก
เพราะสงครามไม่เคยดีต่อใครทั้งนั้น มันมีบาดแผลแห่งความสูญเสีย
ตัดสินใจมาสมัครเป็นนายประภาคารที่เกาะแห่งหนึ่ง ชื่อเกาะแจนัส
อิเกาะนี่ขึ้นชื่อแห่งความโดดเดี่ยว เดียวดาย อยู่ห่างไกลจากฝั่งมาก
มันเหงาแต่สวยงาม
(ตอนเด็กๆ เราไม่เคยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีประภาคารด้วยว่ามันมีไว้ทำอะไร แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะ)
และบนเกาะแจนัสนี่ไม่มีใครอยู่บนเกาะเลยนะ คือต้องไปอยู่คนเดียว
แต่มีบ้าน มีฟาร์ม มีรถส่งของมาให้เป็นสัปดาห์ละสองครั้ง
มันดูแล้วเหงาเกินไปที่มนุษย์จะไปอยู่คนเดียวแบบสันโดษ แต่ทอมพระเอกมันโนแคร์
เพราะชีวิตมันไม่มีใครอยู่แล้ว ครอบครัวก็ไม่มี การไปอยู่บนเกาะคนเดียวหรืออยู่ท่ามกลางคนเยอะๆ เขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ทอมเหมือนคนหลงทาง หาไม่เจอหรอกความรัก ฉันไม่เคยได้รู้จักเลยยย
แต่แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป พอมาเจอกับอิซซาเบล (แล้ววันนึงเธอก็เข้ามา เข้ามาในชีวิต ฉันไม่เคยรู้สักนิดว่าเธอนะใช่เลย)
เพลงคนแสนดี – Tonu Pee ท่อนที่ร้องว่า “จากเลวร้าย เธอทำให้มีความหมายให้ฉันได้รู้ว่า…” ประมาณนั้นเลย
จังหวะที่เจอกันครั้งแรก นางเอกก็อ่อยพระเอกก่อนเลย มองส่งสายตาปิ๊งๆให้ ชวนไปปิคนิคที่ริมเขา
แต่ทอมก็แบบ..นิ่ง ตายด้านอะ แล้วก็ถามว่า “นี่คุณอ่อยนายประภาคารที่มาที่นี่ทุกคนเลยไหม” (แรง)
ทอมกับอิซซาเบลเปิดใจคุย เหมือนตอนแรกนางเอกพยายามชวนพระเอกคุย ไอพระเอกก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แบบถามก็ตอบดีๆสิ
มีอะไรทำไมไม่พูด นี่แอ๊วไปตั้งเยอะ ทำไมยังไม่ชอบฉันอีกนะ (ฟางคิดเอง)
สุดท้ายก็มีรู้ว่าบาดแผลในใจพระเอกจากครอบครัวที่มีพ่อก็เหมือนไม่มี กดดันจากพ่อ และเพิ่งผ่านศึกสงครามมาด้วยอีก
เห็นเพื่อนตาย คนตายมาจนไม่รู้สึกต่ออะไรอีกละ แต่นางเอกก็เล่าว่า เขาก็สูญเสียพี่ชายสองคนไปเพราะสงครามเหมือนกันนะ
ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ
“หญิงที่เสียสามีเรียกว่าหญิงม่ายแต่พ่อแม่ที่เสียลูกไม่มีคำที่เรียกได้สุดท้ายก็ยังเป็นพ่อแม่เหมือนเดิม” คำพูดนี้เศร้าจัง
คือพระเอกเสียพี่ไป จนไม่แน่ใจว่าตัวเองมีผช.ได้รึป่าว พ่อแม่ที่เสียลูกไป ก็ยังคงเป็นพ่อแม่ต่อไป ผู้หญิงหรือผู้ชายที่สามีหรือภรรยาตายไป ก็จะเรียกพ่อหม่าย แม่หม่าย แต่สถานะของพ่อแม่ไม่มีชื่อเรียกใหม่ ต้องทำหน้าที่พ่อหรือแม่ต่อไป ต่อให้จะมีหรือไม่มีหรือเคยมีลูกมาแล้วก็ตาม (เจ็บเนาะ)
ทั้งคู่ห่างกันพักนึง เพราะทอมต้องไปอยู่บนเกาะแจนัส 3 เดือน แต่ระหว่างนี้ก็เขียนจดหมายหากันตลอด
และแล้ว “หัวใจที่ด้านชาของผู้ชายมักถูกละลายด้วยรักแท้และความสดใสจากผู้หญิง”
พอทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันก็เลยย้ายมาอยู่บนเกาะด้วยกัน อยากมีลูกแต่ก็แท้งไป 2 รอบ ไม่ได้มีสักทีงะ น่าสงสาร
ชื่นชมในการแสดงของนางเอก อลิเซียเล่นดีมาก ปาหัวใจใส่เลย ฉากที่กำลังจะแท้งลูก
นึกถึงภาพตัวเองตอนปวดท้องเม็นส์เลยอะ แบบ..เฮ้ย นั่นมันเราเลย ครวญคราง อยากจะตาย บีบ เจ็บไปหมด555555
แสดงดีมาก ต้องไปดู ทุกคนโดยเฉพาะผช.จะได้เข้าอารมณ์ว่าเวลาผญ.ปวดท้องมันทรมาณเบอร์ไหน
พอแท้งลูกไป 2 รอบ
อิซซาเบลเหมือนคนสติเลื่อนลอย เป็นโรคซึมเศร้า แววตามันเศร้าไปหมด
หน้าโทรมไม่สดใสเหมือนก่อนเลย แต่โชคดีเหลือเกินที่ทอมก็ยังอยู่ข้างๆเธอตลอด
แต่แล้ววันนึงมีเรือลำน้อยลอยมาเกยฝั่ง ในเรือมีศพผช.กับทารกที่ยังมีชีวิตอยู่และร้องแงแงดังลั่น เหมือนจะโชคดีที่เด็กทารกถูกช่วยไว้ได้ทัน อิซซาเบลก็แบบโอ้วโหยยยยย เหมือนพระเจ้าประทานมาให้ขอร้องให้ทอมเก็บเด็กไว้เป็นลูกตัวเอง อย่าไปบอกใครเลย เราไม่ผิดอะไรที่ช่วยชีวิตเด็กคนนึง แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น เด็กเริ่มโตขึ้น แต่มันก็คือบาปและสะกิดในใจว่าเด็กมันลูกใครหว่า ไปเอาของเขามาเนี้ยะ แต่แล้ววันนึงทอมก็รู้ว่าเด็กเป็นลูกของผู้หญิงเศรษฐีคนนึง และผช.ที่ตายคือสามีนางเอง
ไม่อยากสปอยเลยอะ
T_________________________T
พอละ
สิ่งที่ชอบ
- ความน่ารักของหนังอีกอย่างหนึ่งคือ เด็กผู้หญิงที่แสดงเป็นลูก
- นางเอกบอกว่าตั้งแต่แรกพบคุณ ฉันเห็นถึงความอบอุ่นในตัวคุณ
- พระเอกบอกว่า ชีวิตผมคุ้มค่าพอแล้ว เมื่อได้รับความรักจากคุณอีกครั้ง
ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอีกร้อยปีก็ได้ เพราะที่ผ่านมามันวิเศษที่สุดตอนได้มีช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันมา - การเขียนจดหมายส่งถึงการ เฝ้ารอ คำในจดหมายมันโคตรดีเลย ทุกข้อความมันกลั่นออกมาใจ ก้นบึ้งของมวลมหาความรู้สึกที่มีต่อกันอะ เสียดายที่เดี๋ยวนี้คงไม่มีใครจีบกัน หรือบอกรักกันผ่านซองจดหมายแล้ว พิมพ์ไลน์แว้บเดียวก็ถึง ความรู้สึกสมัยนี้เลยเกิดขึ้นเร็ว ดับเร็ว คิดอะไรก็พิมพ์ส่งถึงกันได้ทันทีทันใดเลย ไม่ต้องมารอ หรือสรรหาคำหวานๆซึ้งๆมาเท่าไร หนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นเสน่ห์ของการเขียนจดหมายไปแบบเต็มๆ อินอะ ด้วยลายมือ แอบเห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เป็นตัวเขียนโบราณด้วย คลาสสิกมากแก ปกติหนังวินเทจเรื่องอื่นมันก็เขียนแหละ แต่เนื้อความในจดหมายไม่ซึ้งเท่ากับตัวละครคู่นี้ (เอ๊ะหรือช่วงนี้เราอินเลิฟว้า เกี่ยวไม๊นิ ฮ่า)
มันเป็นโศกนาฏกรรมสายสัมพันธ์ที่ไม่มีใครถูกใครผิด ที่ทำลงไปเพราะคำว่า “รัก” คำเดียวเท่านั้น
เพราะบางครั้งก็ต้องเลือกสิ่งที่ถูกไม่ใช่สิ่งที่รัก..
มันคงเป็นความรักที่ไม่ดี ถ้าต้องมีตราบาปในใจ
บทสรุปคือหนังสอนเราในเรื่องการให้อภัย
Be First to Comment