ประสบการณ์โดนยึดบัตรโดยสาร BTS และทำบัตรหายในเวลาต่อมา เคราะห์ซ้ำกรรมซัด (HELP!!!! I lost my BTS cards)

ปกติเป็นคนที่ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS บ่อยมาก แทบจะทุกวัน
ตอนนี้อายุ 22 ปี ใช้เป็น บัตรแบบ Student สีเขียว อยู่
—————————————————————————

ปกติทางเจ้าหน้าที่พนักงานเขาจะมีการสุ่มตรวจกันแบบน่าจะ random
ตรวจบ่อยสุดน่าจะเป็นที่สถานี อโศก (Asok)
เพราะเป็นแหล่งสุมของคนทำงาน
โดยเฉพาะช่วงพีคไทม์ 7.45-8.30


วันดีคืนดี ก็จะมีเจ้าหน้าที่ใส่ชุดสีฟ้า ๆ ดักรออยู่ตรงทางออกตู้ติ๊ดบัตร
ส่วนมากถ้าเขาเห็นว่าถือบัตร student อยู่ก็จะขอตรวจดูหลักฐาน
คือ บัตรนิสิตนักศึกษา และ บัตรประชาชน
(และพ.ศ.เกิดต้องมีอายุไม่เกิน 23 ปีด้วย)
ต้องมีครบทั้ง 2 บัตรนะค่ะ ไม่งั้นโดนยึดแน่

บัตร bts หาย

ของเราก็เคยโดนยึดที่สถานีอโศกเนี้ยะแหละ ถือบัตรไว้คามือเลย
เจ้าหน้าที่ก็ขอตรวจดูหลักฐาน จำได้ว่าตอนนั้นโดนกันหลายคนอยู่
ด้วยความที่ลุคตอนนั้นคงแก่เกินคนอายุ 23
จึงยากที่จะเชื่อว่าเป็นนักศึกษาอยู่
แต่..ณ วินาทีก็คือเงิ่บ และต้องรวบรวมสตินะ
หลักฐานเรามีครบแหละ ทั้งบัตรนักศึกษาและบัตรประชาชน

แต่บอกไปว่า ไม่มีบัตรนักศึกษาค่ะ
แน่นอนค่ะ “โดนยึดบัตร BTS ไปต่อหน้าต่อตา”
เจ้าหน้าที่ผู้หญิง (หน้าดุ) ก็เลยบันทึกเป็นใบเทาๆ ลงข้อมูลรายละเอียดชื่อเรา บัตร วันที่ เหตุผลที่โดนยึดบัตร
มันจะมี 2 ส่วน คือส่วนที่เก็บไว้ที่เรา อีกส่วนของเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นหลักฐานตอนเรามาขอบัตรคืน
พร้อมกล่าวอย่างเฉยๆว่า “ถ้ามีหลักฐานมายื่นครบเมื่อไหร่ก็มารับบัตรคืนได้ทุกเมื่อทุกเวลาเลยนะ”

ความเครียดอยู่ที่ เพิ่งเติมเที่ยวไป 50 เที่ยว (900 บาท)
พร้อมกับเติมเงินเข้าไปในบัตร 100 บาท เบ็ดเสร็จก็ 1000 บาท

ช็อคไปเลย แทบร้องไห้
กลายเป็นว่าวันนั้นทั้งวันไม่เป็นอันทำงงทำงานเลย หาวิธีเพื่อไปเอาบัตรคืนมาให้ได้
เพราะต้องใช้ทุกวัน
จะให้เสีย 52 บาท (นั่งจากปุณณวิถี – อโศก) ต่อเที่ยวไม่ไหวแน๊ เงินโม๊ดแน่ ๆ

แต่สุดท้ายก็ท้าทายอำนาจมืด ใจดีสู้เสือ
พักเที่ยงปั๊ปมากินข้าวที่ Terminal เสร็จรวบรวมความกล้า
แอ๊บหน้าให้เด็กที่สุด keep look เด็กมหาลัยจ๋า (ถ้ามีชุดนิสิตคงใส่ไปแล้ว)
ถอดรองเท้าส้นสูงไว้กับเพื่อน
เดินไปที่ห้องขายบัตรที่สถานีอโศก (ฝั่งโรบินสัน)
บอกเจ้าหน้าที่ว่ามาติดต่อขอรับบัตรคืนค่ะ พร้อมกับยื่นใบเทาๆที่ได้มาเมื่อเช้า
และก็แนบหลักฐานคือบัตรนักศึกษา + บัตรปชช.
เจ้าหน้าที่ในสถานีก็ไปหาบัตรเรามาให้ เราก็เซ็นรับบัตรคืนก็ได้บัตรมา

เขาก็ไม่ได้ตรวจบัตรเราละเอียดอะไรนะ คงดูแค่ พ.ศ.เกิดว่าโอเค ยังใช้ได้อยู่
ปีหน้าก็คงไม่ได้ละเกิน ต้องไปทำเป็น บัตร Adult สีส้ม 

แต่ชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

3 เดือนต่อมา

สติสตางค์คงไม่ค่อยมีในเช้าวันศุกร์ ทำบัตร BTS หาย
กว่าจะรู้ตัวว่าหาย ก็มืดค่ำกันแล้ว
คร่ำครวญโวยวายเบอร์สุด อาลัยอาวรยิ่งกว่าตอนอกหัก
พีคกว่าโดนยึดอีก เพราะเพิ่งเติมเที่ยวไป 50  ใช้ไปประมาณ  6-7 เที่ยวเอ๊งแกรรรร

หายแบบแน่ใจว่าตามหาไม่เจอแล้วจริง ๆ
สิ่งแรกที่ทำเมื่อรู้ว่าหายคือ
เราสามารถไปแจ้งว่าทำบัตรหายได้ทุกสถานี
เราก็ไปแจ้งที่อโศกเหมือนเดิมแหละ (ชีวิตเช้าเย็นก็อยู่แต่แถวนี้ – -“)
เจ้าหน้าที่ก็จะให้ใบมากรอกรายละเอียดบัตร ว่า
ทำหายที่ไหน เมื่อไหร่ มูลค่าในบัตรเหลือเท่าไหร่ เดินทางเที่ยวสุดท้ายที่ไหน ..
กรอกไปให้ละเอียดที่สุด

เราก็ถามเจ้าหน้าที่ไปว่า
“วันนี้มีคนเก็บบัตรได้บ้างไหมคะ?”
“ไม่มีเลยครับ” (ยิ้ม)

“แล้วปกติมีคนมาแจ้งหาย แล้วได้คืนบ้างไหมคะ?”
“ก็..ต้องบอกก่อนเลยว่าโอกาสที่จะได้คืนน้อยมากครับ
ส่วนมากกรณีที่ได้คืนคือเจ้าหน้าที่ของเรา ไม่ก็รปภ.เห็นตกหล่นถามสถานีมากว่าครับ” (ยิ้ม)

ยิ้มทั้งน้ำตา
T________________T

หรืออีกวิธีนึง
ถ้าใครได้ลงทะเบียนบัตร Rabbit card ไว้ที่

บัตร bts หาย

www.carrotrewards.net

สามารถเข้าไปเช็คที่เมนู Transaction history (ประวัติการทำรายการ)

บัตร bts หาย

ว่ามีคนเอาบัตรเราไปใช้ขึ้นจากสถานีไหนบ้างรึป่าว
(เข้าไปเช็คแล้วไม่มีประวัติการใช้บัตรขึ้นเลย
แสดงว่าหายสาบสูญแบบไม่มีใครเก็บได้ จะดีใจหรืออะไรดีว่ะ)

ลืมบอกไปว่ากรณีที่เราทำบัตรหาย
บีทีเอสไม่สามารถรับผิดชอบจำนวนเที่ยวที่เหลือ และจำนวนเงินในบัตรให้ได้
แต่จำนวนคะแนน point ในบัตรที่สะสมมาทั้งชีวิตสามารถเอาคืนได้
โดยเข้าจัดการง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์เดิม

www.carrotrewards.net

ที่เมนู Add/Change rabbit (เพิ่ม เปลี่ยนข้อมูลแรบบิท)

บัตร bts หาย

เราสามารถเพิ่ม/ลบบัตรที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน เพื่อให้ระบบบันทึกคะแนนได้
เพิ่มได้สูงสุด 5 ใบ/บัญชีค่ะ

ในที่นี้เราก็ทำการอายัดหมายเลขบัตรที่เราได้ทำหายไป ได้ติ๊กยกเลิก > ยืนยัน
แค่นี้ใครก็ตามที่เก็บบัตรเราไปได้ ก็เอาคะแนนของเราไปแลกของรางวัลไม่ได้แล้ว เย้
แต่เที่ยวกับเงินในบัตรก็ปล่อยวางไปเถอะเนอะ ฮืออ T^T

อ่ออ และก็อย่าลืมเพิ่มข้อมูลเลขที่บัตรใหม่ที่ได้ไปซื้อใหม่ลงไปด้วยละ

รายละเอียดการสมัครบัตรใหม่
ช่วงนี้เขาลดราคาค่าธรรมเนียมการออกบัตรเหลือ 50 บาท จาก 150 บาท
(โปรฯนี้แค่สิ้นปี 31 ธันวา 2558)
และมีค่ามัดจำบัตร 50 บาท
ตอนนั้นไปสมัครที่สถานีอุดมสุข เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยถามอะไรเลย ปกติต้องขอดูหลักฐานแหละ

เสร็จเรียบร้อย ได้บัตรมาใหม่แล้ว คราวหน้าก็อย่าทำหายกันอีกง่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.rabbitcard.com/th/

จบ.

ปล. [ขออนุญาตใช้รูปจากเว็บ andrewandkelsi.com]

Related posts:

แชมพู ฮาวิล่าห์ Havilah ใช้ดีจริงไหม ? มาพิสูจน์กันให้เห็นชัดๆ ไม่มโน !!
รีวิวน้ำปลาร้าปรุงรสแม่สิริพรสูตรเข้มข้น หอมแซ่บ อร่อยนัวลิ้น
รีวิว UberEats แอพสั่งอาหารถึงบ้าน ทดลองสั่งเมนูจากร้านตำรับภูเก็จ (TUMRHAP PHUKET) สาขาทองหล่อ
ของดีเอาใจสายเที่ยว ! ถุงสุญญากาศ Vacuum Bag หมดปัญหากระเป๋าล้น เสื้อผ้าไม่อมฝุ่น และช่วยประหยัดพื้น...
ครีมกันแดดออร์แกนิค Vasanava กันแดดที่ใช่ ของ ผิวแพ้ง่าย
เลือกผ้าใบปิดรถกระบะ Capcar ติดตั้งง่าย แข็งแรงทนทาน มีประกันให้ด้วยนะ
[รีวิว] สบู่ลดรอยสิว ผิวขาวในเซเว่น
Kyodai Sushi ร้านซูชิเล็ก ๆ ย่านเกษตรนวมินทร์ เริ่มต้นคำละ 19 บ. ได้ปลาสด คุ้ม อร่อย เหมือนยกมาจากญี...

Comments

comments

fangrio Written by:

สนใจเกี่ยวกับการทำอาหาร ต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ และความเป็นไปรอบตัว อยู่บ้านชอบเดินเท้าเปล่า ไม่ชอบนอนดึก แต่ตื่นไม่เช้า เป็นหัวไช้เท้าดองเลิฟเวอร์

Be First to Comment

Leave a Reply