จุดประสงค์แรกที่อยากไปที่ Yunomori Onsen & Spa
เพราะว่าอยู่ใส่ชุดยูกาตะ อยากทดลองเป็นสาวญี่ปุ่น
ครั้งจะไปหาโอกาสใส่ชุดแบบนี้ที่อื่น ก็ยากเต็มที่
หลายคนอาจสงสัยว่าชุดยูกาตะคืออะไร เหมือนกับชุดกิโมโนไหม?
แอบไปศึกษามานิดนึง จะรู้ว่าชุดยูกาตะนั้นจะเป็นชุดที่ใส่แบบไม่เป็นทางการ
ใส่ออกไปเดินเล่น ในวันสบายๆ ชิคๆของชาวญี่ปุ่นเขา
คำว่า Yukata จริงๆ มาจากคำว่า Yoku [อาบน้ำ]
กับ Katabira [เสื้อที่ใส่ไว้ข้างใน] รวมกันแปลว่า “ชุดอาบน้ำ”
เอาละเข้าเรื่องดีกว่า
Yunomori Onsen & Spa อยู่ที่ไหน ต้องไปถึงญี่ปุ่นรึป่าว?
ถ้ามาจาก BTS ให้ลงสถานีพร้อมพงษ์
แล้วนั่งวินมอไซต์มาจากปากซอยสุขุมวิท 24 หรือ 26 ก็ได้
(แต่วันนั้นเรานั่งจากปากซอย 24 ค่าเสียหายคนละ 20 บาท
คือเสียวมากก ไม่ใช่ไร คือพี่วินมันพาขี่ย้อนศรเข้าไปในซอย นั่งเกร็งสุด)
บอกพี่วินว่า ไป A-square ค่ะ
แต่ถ้ามาจากถนนเส้นพระราม 4 จะง่ายกว่าค่ะ
โดย A-square จะอยู่ตรงข้ามกับ K-village
(ขอเสริมนิดนึงว่า ตอนแรกเราอ่านเจอในเว็บไซต์นึงเขาบอกว่าทางร้านมีบริการรับส่งฟรี
จาก bts พร้อมพงษ์ แต่วันนั้นเราโทรไปถามมาแล้ว
เขาบอกว่าต้องขอโทษด้วยตอนนี้มีบริการแค่ไปส่งจากร้านไปลงบีทีเอสเท่านั้น ไปรับไม่มี)
พอถึง A-square ปั๊ป (ถ้านั่งวินมานะ) ให้เดินไปขวามือเรื่อยๆจะเจอป้ายนี้
แสดงว่ามาถูก ยินดีด้วยคุณได้ไปต่อ
พอเข้ามาด้านในจะมีส่วนของล๊อบบี้คอยรองรับอยู่ค่ะ
สามารถเดินตรงไปหาพนักงานได้เลย เขาจะต้อนรับดีม้ากก
ราคาสำหรับการแช่ออนเซ็น จะอยู่ที่ 450 บาท
สามารถแช่ได้ทั้งวัน ไม่จำกัดเวลา
(เด็กต่ำกว่า 15 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปเสีย 250 บาท)
แต่เราไปซื้อ giftcards จากเว็บนี้มา https://www.socialgiver.com/giftcards/
จะได้ส่วนลดในราคา 350 บาท (แช่ออนเซ็นอย่างเดียวนะ ไม่รวมพวกนวด พวกอาหาร)
เราไม่แน่ใจว่า giftcards นี้มีตลอดรึป่าว แต่ถือว่าคุ้มมาก
Update 26 June 2016
จะซื้อ giftcardsให้เข้าไปลิงค์นี้นะคะ
https://www.socialgiver.com/th/shop/yunomori-onsen/
มีข่าวมาบอก
เราซื้อบัตรของขวัญจาก SocialGiver เรามีโค้ดโปรลดราคาพิเศษให้อีก 10% สำหรับยอดสั่งซื้อ 500 บาทขึ้นไป
สำหรับผู้อ่านบล็อกเรา ใส่โค้ดด้านล่าง
Promo Code “FANGRIO”
ลงที่หน้า Shopping Cart ในส่วนตอนกำลังจะ Payment
สามารถใช้งาน Code ได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม – 12 สิงหาคม 2560 นี้ค่ะ
วิธีการใช้ giftcard คือเราก็ยื่นมือถือไปให้พนักงาน
บอกว่ามีบัตรส่วนลดจากเว็บ Socialgiver ค่ะ
พนักงานก็จะโน่นนี่นะ และก็ส่งกุญแจล็อกเกอร์มาให้เรา
โดยกุญแจนี้ให้คล้องไว้ที่ข้อมือของเราเลย เพราะตอนเข้าไปแช่ออนเซ็นก็ต้องเอาติดไปด้วย
จากนั้นพอทำธุระหน้าเคาเตอร์เสร็จ จะมีพนักงานพาเราไปเปลี่ยนรองเท้าก่อน
เปรียบเสมือนกำลังจะเข้าสู่รั้วบ้านเขาแล้วนะ
ที่เปลี่ยนรองเท้าก็จะเป็นห้องมีโซฟาให้นั่งเปลี่ยนรองเท้า มีกระจก มืดๆหน่อย
ทุกกระบวนการเราทำแค่ถอดรองเท้า แล้วพนักงานจะเดินไปเก็บไว้ให้เองตามเบอร์ล็อคเกอร์เรา
เสร็จสรรพไปไหนต่อละ ทำหน้างงๆกับเพื่อน
เพราะมาครั้งแรก พนง.ก็บอกให้เดินออกไปยังนอกล๊อบบี้
เดินชม เดินเล่นได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ
ประโยชน์ยอดฮิตของที่นี่คือ “ตามสบายเลยนะคะ”
เดินไปทางไหนเจอพนง.ก็พูดใส่ตลอด
พอเดินออกไปข้างนอก ก็เจอสวนไผ่ขนาดย่อม ให้อารมณ์เหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลย
ทางด้านซ้ายจะมีเคาเตอร์คอยบริการให้เราเลือก ชุดยูกาตะ
เพื่อใส่เดินเล่น โฉบไปโฉบมา
(จริงๆเขาใส่ตอนก่อนจะไปแช่ออนเซ็น หรือหลังแช่เสร็จก็ได้)
*ขออนุญาติยืมรูปจาก Chillpainai.comค่ะ*
รอช้าอยู่ไย เดินไปเลือกสีชุดอย่างไว
เลือกลาย ดอกสีชมพู กับผ้าคาดเอวสีชมพู
จากนั้นพนง.จะส่งผ้าขนหนูให้ 2 ชิ้น คือเล็กกับใหญ่ (เดี๋ยวมีรูปให้ดู)
จุดพีคคือซองพลาสติกข้างในบรรจุผ้าสีดำ
(ตอนแรกเข้าใจว่าผ้ารองแก้วมั้งไม่ก็ไว้เช็ดหน้า)
ไปครั้งแรกก็โป๊ะไปหลายอย่าง
ห้องที่ใช้เปลี่ยนชุดยูกาตะจะเป็นห้องรวม แต่แยกชายหญิงนะ
หลายคนถามมากันเยอะว่า บ่อแช่ออนเซ็นรวมหรือแยก?
บอกเลยว่า แยกทั้งหมดค่ะ ทั้งส่วนห้องแต่งตัวและบ่อแช่
จะมีแค่ส่วนล็อบบี้ สวนหย่อมด้านนอก ที่ใช้ร่วมกันได้
ก่อนเข้าไปอย่าลืมถอดรองเท้าเตะก่อนเข้าค่ะ
ถ้าเผลอใส่เข้าไป แม่บ้านก็จะมาบอกให้ถอด (โดนมาแย้ว)
ทีนี้พอเปิดประตูเข้าไป
เราไปกะเพื่อน 2 คน
มันก็จะเป็นห้องยาวๆ มีล็อกเกอร์อยู่ด้านซ้ายมือ
เจอผู้หญิงแก่บ้าง สาวบ้าง กำลังหงุ่นอยู่กับการจัดการเสื้อผ้าตัวเอง
เข้าไปครั้งแรก เขินมากกกก ตกใจมากกกกกกก
คือเขาแก้ผ้ากันตรงในห้องนั้นเลย
มีเก้าอี้ยาวให้พัก มีกระจก ไดร์เป่าผม โลชั่น ให้ทำผม แต่งหน้าให้
แต่ละคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะเขิน ทรวดทรง เอว นม ก้น จัดเต็ม โป๊เปื่อย
ด้วยความที่เป็นสาวไทย งง 2 คนมาครั้งแรก
เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามค่ะ
เอาวะ ถอดก็ถอด
“ฮืออออออออออออออ” T^T
เท่าที่สังเกตนะคะ เราไปช่วงบ่าย 3-4 โมงวันเสาร์
ส่วนใหญ่จะเจอแต่ชาวญี่ปุ่น เขาเลยไม่ค่อยเขินอายกันเท่าไร คงเป็นวัฒนธรรมเขา
เราก็พยายามรีบแต่งตัว ผ้าขนหนูอะไรที่ให้เขาให้มาก็ห่ม ๆไป
ยืนถอด ๆ มันหน้าล็อกเกอร์ สักพักเพื่อนที่มาด้วยคงทนแรงกดดันไม่ไหว
เลยมาขอโป๊กันด้วยล๊อกเกอร์เดียวกัน 55555
อันนี้เป็นผ้าคาดนม
(บางได้อีก บางไปไหน บางสุด บางแบบอย่าใส่เลยเหอะมึง )
*ขออนุญาติยืมรูปจาก chillpainai.com ค่ะ*
ทีนี้มาถึงไฮท์ไลท์ที่เราสงสัยกันว่า ไอ้ซองพลาสติกข้างในมีผ้าดำผืนเล็กบรรจุอยู่มันเอาไว้ทำไรกันนะ
พอเข้ามาในห้องนี้ ก็..นะ รู้เลย
เอาไว้นุ่งน้อย ห่มน้อย ปิดบน ปิดล่าง ตอนแช่ออนเซ็น
จะบอกว่า มันบางงงงงงงงงงงงงงงมากกกกกกก
เป็นผ้ายืดๆตาข่ายๆบางใสใสเลยค่ะ
ที่รู้ก็เพราะว่า เห็นป้าผู้หญิงคนข้างๆนางใส่ออกมาจากบ่อแช่ออนเซ็น
เรานี่ร้อง .. อื้อหื้อออออย่างรุนแรงมาก ณ จุดๆนั้น
ครวณครางในใจ โอ้ยย กูจะกล้าใส่จริงๆหรอว่ะ
ทำไมเขากล้าใส่ แก้ผ้ากันงี้เลยเหรอเนี่ยย
โอ้ยยยย ตื่นเต้น พีคมากกกกก
สุดท้ายก็ตัดสินใจใส่ผ้าดำ 2 ชิ้นแล้วนุ่งชุดยูกาตะสีชมพูคลุมไว้อีกทีนึงค่ะ
ปัญหาตามมาอีก เขาใส่กันยังไงอะ?….
เลยเรียกป้าแม่บ้านที่เช็ดพื้นอยู่แถวๆนั้นให้มาช่วยใส่ให้ที
ได้เคล็ดลับมาว่า ให้เอาผ้าซีกขวาทับไว้ข้างใน
ส่วนผ้าคาดเอว ให้พับครึ่งลงมา แล้วคาดไปที่เอว
ผูกเงื่อนไว้ด้านหลัง (เราผูกเงื่อนตาย 2 ชั้นก็เอาอยู่ค่ะ)
พอใส่ชุดยูกาตะเสร็จ แล้วไมไ่ด้ลงบ่อแช่ทันที
ก็ออกไปเดินชมสถานที่โดยรอบให้ทั่ว
มาพูดถึงร้านอาหารบ้างดีกว่า
จะมี 2 ร้านอยู่ภายใน Yunomori เลยคือ
คือเป็นคาเฟ่กาแฟพวกเครื่องดื่ม ของกินเล่น ชื่อร้าน gastronom cafe & bekery
เขาบอกว่ามีเมนูแนะนำ คือ
เมนูแนะนำ : กาแฟคาปุชชิโน, สลัดสาหร่าย, เกี๊ยวไต้หวัน,
ค็อกเทล, เปาะเปี๊ยะสดเวียดนาม, สลัดสาหร่าย, สปาเก็ตตี้ ฯลฯ
ร้านนี้จะเปิด เปิดทุกวัน เวลา 11.00 – 22.00 น
แต่เราไม่ได้กินร้านนี้
เราไปกินอีกร้านนึงชื่อ Dontaku Japennese Dining จะเปิดช่วงเย็นเท่านั้น
จันทร์-เสาร์ 17.30-24.00น (ปิดบริการ 01.00 น.)
อาทิตย์ 16.30-23.00น (ปิดบริการ 24.00 น.)
บรรยากาศภายในร้านจะญี่ปุ่นจ๋ามาก ราคาไม่แพง สมเหตุสมผล
เอาจริงเราว่าถูกกกว่าพวกยาโยอิ ฮาจิบังด้วย เพราะดูแล้วได้ปริมาณเยอะกว่าอะ
มาเข้าเรื่องการแช่ออนเซ็นดีกว่า
ก่อนจะเข้าไปในบ่อแช่ จะเจอที่อาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อน
ส่วนพื้นที่จะห้ามเอาโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูปเข้าไป
และที่สำคัญควรดื่มน้ำไปให้พอเพียง!
ไม่งั้นอาจจะหน้ามืดเหมือนเราได้ เพราะร่างกายเราจะเสียเหงื่อเยอะ
ภายในจะแบ่งเป็นล็อกๆ คอกๆ มีฝักบัว มีพวกแชมพู คอนดิชั่น สบู่เหลว คอยบริการไว้ให้
ผู้หญิงก็มัดผมให้เรียบร้อย จะได้ไม่หลุดร่วงลงบ่อเขา
ใครใคร่สระผมก็สระ แต่เราไม่ได้สระ เพราะสระมาแล้ว
แอบงงๆว่า ฝักบัวบางอันน้ำร้อน บางอันน้ำเย็น
ไม่รู้ต้องอาบน้ำอะไร แต่ก็อาบๆไป อารมณ์เหมือนปรับอุณภูมิร่างกายไปในตัวด้วย
ปล.ระหว่างนี้ก็เห็นมนุษย์ป้าชาวญี่ปุ่นโป๊เปือยถูซอกอะไรก็ไปแบบชิวๆ
(อ่อลืมบอกว่าสามารถเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในบ่อได้
เอาไว้เช็ดเหงื่อตามร่างกาย หรือจะปิดตา โพกหัว แล้วแต่เลยค่ะ
แต่ห้ามเอาผ้าชุบน้ำลงไปในบ่อ แล้วบิดน้ำคืนลงสู่บ่อ ไม่งั้นจะโดนมองแรง
ไม่ใช่ไรหรอก ว่าดูไม่สะอาด เพราะเป็นของใช้ส่วนตัวอะ)
ภายในจะประกอบด้วย 6 บ่อด้วยกัน
จะป้ายบอกว่าควรลงบ่อไหนเป็นบ่อแรก แต่ละบ่อมีสรรพคุณแตกต่างกันออกไป
แอบสืบมาว่าน้ำแร่ที่นี่ขนส่งโดยสารตรงมาจาก แหล่งน้ำแร่ธรรมชาติจาก จ.ระนอง ค่ะ
แนะนำว่าให้แช่จากบ่อที่ร้อนน้อยๆ ก่อน เพื่อปรับสภาพร่างกาย
ถ้าไม่มั่นใจเอามือไปจุ่มนิ้วดู 555 จริงๆดูจากป้ายเขาก็ได้ค่ะ
บ่อแรก Soda Spa
บ่อไม่เล็กไม่ใหญ่ ลงไปแช่ครั้งแรกก็รู้สึกผ่อนคลายดี
มาดูประโยชน์มากมายที่เราจะได้ในการแช่บ่อโซดาสปากันเถอะ
– ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ให้สุขภาพแข็งแรง ร่างกายสดชื่น
– ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและข้อ
– ลดความดันโลหิต
– กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน
– ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทและสภาวะจิตใจดีขึ้น
– ให้ผิวสุขภาพดี
– ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง
– ปรับสมดุลสภาพผิวพรรณ ช่วยชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์
– ช่วยในการทำกายภาพบำบัดรักษาอาการขาดเลือดตาม ส่วนต่างๆ ของร่างกาย
บ่อที่สอง Jet bath
เป็นบ่อนวด น้ำวน ผุดผุดจากใต้ล่าง อุณหภูมิราวๆ 40 องศา
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะนวดตัว เวลานอนราบไปก็รู้สึกสบาย
แต่สงสัยเราแช่นานไปกลัวไม่คุ้ม ขึ้นมาหน้ามืดจ้า แนะนำว่าให้แช่บ่อละ 5-10 นาทีก็พอค่ะ
อันที่ 3 Steam room
เป็นห้องสตรีม ไอน้ำพุ่ง บอกเลยว่า ฉันขอยอมแพ้
มัน ร้อน ม้ากกกกกก
ด้วยความที่เราใส่คอนแท็กเลนส์อยู่ด้วยไง กลัวว่ามันจะละลาย
เพราะเข้าไปครั้งแรกกับเพื่อนก็เอาผ้าขนหนูปิดตาไว้ และให้เพื่อนจูงมือเข้าไป
เข้าไปถึง 1 นาที อื้อหื้อโอ้วโห้วว ร้อนพุ่งสะดุ้งแหลก
อารมณ์เหมือนกับตัวเองเป็นซาลาเปา ที่ถูกอบอยู่ในตู้
ซึ่งภายในห้องสตรีม จะมีที่ให้นั่ง จะนอนก็ได้ แต่สำหรับเราแล้วแค่ยืนเฉยๆก็สะดุดละ
พื้นมันร้อนม้ากกกอะ
ยังแปลกใจว่า คนอื่นเขาสามารถเข้าไปแบบนิ่ม ๆ ชิว
มีป้าคนนึงเข้าไปนานมากก นอนด้วยจ้า อย่างโหด
สงสัยเขาคงมาหลายครั้ง จนร่างกายปรับตัวได้ละอะ
มาถึงจุดที่ชอบกันสุดๆ
ก่อนทางเข้าห้องสตรีม จะฝักบัวติดอยู่
มันคือ Soda Shower ที่เขาบอกว่าช่วยให้เส้นผมนุ่ม ลื่น ล้างสารพิษออกจากเส้นผมเรา
ที่สำคัญจุดพีคของมันคือ ฟองน้ำที่ไหลมามันละเอียดและมีขนาดเล็ก ฟินมาก
และพิสูจน์กับเพื่อนแล้วว่า พอล้างผมด้วย Soda Shower แล้วออกมา
ผมนุ่มลื่นขึ้นจริงๆค่ะ คอนเฟริม
ฝั่งผช.ไม่มีนะเออ มีแต่ฝั่งผญ.ค่ะ
บ่อที่ 4 Cold Bath
อันนี้เป็นบ่อน้ำเย็น ประมาณ 18 องศา
คือห้องจากเข้าห้องสตรีมเสร็จก็ลงบ่อนี้เลย เย็นสุดๆๆๆๆๆๆ ชอบอะเย็นอยู่บ่อเดียว
ถ้าฤดูร้อนแดดแรงๆ ลงมาแช่บ่อแบบนี้คือดีงาม คลายร้อนได้เลย
แต่แช่นานไปแอบปากสั่น บ่อนี้เล็กไปนิดนึง แถมแอบได้กลิ่นฉุน ๆ น่าจะเป็นคลอรีนมั้ง
บ่อที่ 5 Teak Bath และ Garden Bath
อยู่ข้างนอกกลางแจ้ง ธรรมชาติ ท่ามกลางสวน
มีแบบเป็นถังแช่คนเดียว 2 ถัง กับบ่อกว้างๆ
เราว่าจะที่แช่มาทั้งหมด บ่อข้างนอกฟินสุดอะ
อุณหภูมิกำลังดี แช่ไปจะหลับไป มันเพลินมาก คือเงียบด้วยแหละ
มีเพลงคลอนิดๆ
บ่อที่ 6 Onsen (Mineral water bath)
บ่อสุดท้ายนี้ จะร้อนสุด ใหญ่สุด ประมาณ 43 องศา
เทียบเท่ากับของแท้ที่ญี่ปุ่นแล้ว แต่คนไม่ค่อยมาแช่กันงะ แถมบ่อใหญ่ด้วย
มันร้อนจริงๆนะ ต้องค่อยๆลงไปที่ละส่วนของร่างกาย
ในส่วนของสปาทรีทเมนต์ ราคาก็ไม่แรงมากค่ะ
นวดตัวแบบอะโรม่าเธราพี 600 บาท/ 60 นาที
หรือถ้านวดแผนไทยก็อยู่ที่ 350 บาท/ 60 นาที 500 บาท/ 90 นาที
พอแช่เสร็จ ไม่ต้องอาบน้ำนะคะ ให้เดินไปเช็ดตัว
เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย จะใส่ชุดยูกาตะออกไปหาไรทานของรอบนอกก็ได้
แต่ห้ามเอาชุดยูกาตะกลับบ้านนะคะ
ปล.เขาห้ามถ่ายรูปในห้องนี้นะ ระวังโดนแม่บ้านดุ นี้ใช้ช่วงคนเผลอ
ภายในห้องแต่งตัว สามารถใช้บริการไดร์เป่าผมได้ตามสะดวก
พอเสร็จภารกิจแล้ว ก็เอากุญแจล็อกเกอร์ไปคืน
พนง.จะพาไปเปลี่ยนรองเท้า
สามารถบอกที่เคาเตอร์ได้ว่า ต้องการรถรับส่งไปยังสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์
สรุป โดยรวมถือว่าดี มีกระแสมาว่าที่นี่ไม่สะอาด พนง.บริการไม่ดี
แต่ตอนเราไปภาพรวมมันดี ไม่เป็นอย่างที่คนอื่นว่าเลยนะ
แถมซื้อดีลมา เหลือ 350 แช่ทั้งวันจนปากเปื่อย
เข้าไปตอนบ่าย 3 โมง ออกมาตอน 2 ทุ่มกว่า คุ้มอะแก (นานไป๊)
ออกไปชิว ออกไปอัพสกิล เปิดโลกทัศน์ให้กว้าง เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ
A-Square MALL ซอยสุขุมวิท 26 (เส้นทางลัดสู่ถนนพระรามสี่)
(ถ้าเจอคนญี่ปุ่นรับสาย ให้พูดไทยสวนกลับไปเลย ให้นางงงๆ)
Email : info@yunomorionsen.com
Website : www.yunomorionsen.com
Facebook : www.facebook.com/YunomoriOnsenhttps://www.socialgiver.com/th/shop/yunomori-onsen/
You must be logged in to post a comment.