No.1 Cafe
เป็นร้านคาเฟ่ที่เราคิดว่าเป็นหนึ่งในร้านที่ใกล้บีทีเอสบางนามากที่สุดแห่งหนึ่ง
เพราะอยู่ใต้สถานีบางนาเลย ความดีงามของที่นี้คือราคาไม่แรงเท่าร้านที่อยู่ตามเส้นสุขุมวิท
แต่คุณภาพเครื่องดื่ม วัตถุดิบที่ใช้ทำขนมหวาน เค้กดีไม่แพ้ร้านดังในย่านยอดฮิตแถวทองหล่อ หรืออารีย์เลย
ด้วยความที่คาเฟ่นี้ เพิ่งเปิดได้ไม่นาน
และราคาจับต้องได้ ไม่สูงลิ่วแบบแก้วละ 100-200 บาท เพราะคาเฟ่นี้พกเงินมา 150 บาท ก็สามารถอิ่มได้สบายกระเป๋า
และที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือ Wifi ฟรี สามารถมานั่งอ่านหนังสือหรือนั่งแช่ทำงานได้สบาย ๆ มีบริการจุดชาร์จไฟให้สามารถเสียบได้ พี่เจ้าของร้านใจดี แถมแอร์ฉ่ำสบายทั่วทุกมุมร้านอีกด้วย
เหมาะสำหรับเป็นจุดนัดพบ
ไม่อยากไปรอเพื่อน รอแฟน
บนสถานีบีทีเอสบางนาให้เมื่อย ร้อน
เหงื่อออก ตากแดดให้ผิวเสีย
หรือบางทีมีงานที่ ไบเทคบางนา
คนล้นแล้วอยากหนีมามุมเงียบ
แวะมานั่งที่ร้านหรือมาพบปะพูดคุยงานก็มีให้เลือกหลายมุม
ร้านตกแต่งน่ารักด้วยสิงสาราสัตว์ อบอุ่น
แต่ดูทันสมัยและเป็นกันเองเหมือนมาพักผ่อนที่มุมบ้านเพื่อน
ผนังโซนหน้าร้าน เหมือนภาพประกอบหนังสือนิทานเด็กในเทพนิยายชวนฝัน
เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว เราจึงอยากแนะนำให้รู้จัก
และบอกเล่าเมนูของทางร้านที่อยากให้ทุกคนมาลองชิมกันค่ะ
Dessert
จุดเด่นของร้านนี้คือขนมเค้กในตู้ที่วางขายอยู่คือทำเองทุกชิ้น
ด้วยความชอบและใจรักล้วน
วัตถุดิบดี ราคานักศึกษา เริ่มต้นที่ 60 บาทเท่านั้น
มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 🙂
จานแรก “Chocolate Lava” [65 THB]
อบเอง ทำเอง ลาวาไหลเองแบบไม่ต้องลุ้น!
แถมราคาน่ารัก
ถูกกว่าหาไม่ได้ง่ายนะ บางคนอาจจะเอ๊ะ?
ราคาเบาขนาดนี้ อร่อยรึป่าว จะเข้มข้มมั้ยนะ?
พูดเลยว่าไม่แพ้ของร้านดัง ๆ
ที่ขายราคา 100++ เลย สู้ได้
ผู้หญิงสายขนมหวานและขาดน้ำตาลไม่ได้จะหงุดหงิดแบบเรา กินหมดจานแบบเลียปากเพราะเจ้มจ้นถึงใจ
มาต่อเลยกับ 3 ชิ้น 3 รสชาติ
“Midnight Brownie” [75 THB]
แฟนพันธ์ุแท้ไอติมสเว่นเซ่นคงคุ้นเคยกับรสโปรดนี้ดี ร้านนี้จับมาทำเป็นเค้กแทน
รสชาติไม่หนีจากไอติมเท่าไหร่นัก ที่มีเนื้อเค้กเป็นบราวน์นี่คงความเข้มข้นคงไว้
เพิ่มความแปลกตรงที่ชั้นล่างสุดจะเป็นชีสเค้ก
ให้กินแบบไม่ต้องกลัวอ้วน พรุ่งนี้ค่อยลด #อายุน้อยร้อยแคล
ใครโปรดปราณรสชาติหวาน ฟรุงฟริ้ง สายโลกเป็นพาสเทลขี่ยูนิคอร์นในทุ่งลาเวนเดอร์
น่าจะเหมาะกับตัวนี้ “Unicorn Cake” [75 THB]
เนื้อมู้สเบาเบา นุ่มนุ่ม รสหวานอมเปรี้ยวเล็กๆ สีสายรุ้งน่ารัก
ส่วนด้านล่างอัดแน่นเป็นฐานด้วยแครกเกอร์กรอบตัดเลี่ยนค่ะ
ทานคู่กับเครื่องดื่มซ่าซ่าพวกโซดา เช่น ส้มยูซูโซดา ก็เข้ากันดีเยี่ยม
ส่วนคนไม่ชอบหวาน อยากได้เค้กแนวเข้มเข้มสักหน่อย
ต้อง “Coffee Toffee” [75 THB]
ชอบตรงถั่วหิมพานต์เคลือบคาราเมล
ที่โรยอยู่ด้านบนมาก
เคี้ยวมันปากและก็กรุบดี
เนื้อเค้กทำจากกาแฟ + คาราเมลค่ะ
ไม่หวานมาก
อบได้สีน้ำตาลสวย และหอมกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ด้วย
“Tart Lemon & Tart Apple” [75 THB]
เนื้อแป้งพายกับหน้าเลมอนเปรี้ยวจี้ดจ๊าด
แบบลงตัว มีรสหวานกับเปรี้ยวไปกันได้แบบกำลังดี
ทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ชอบทานพาย
ส่วนด้านของแอปเปิ้ล ก็เป็นฝานมาเป็นแผ่นบางขนาดพอดี
สองชิ้นนี้ชาวต่างชาติชอบสั่งมาทานกันมาก ถูกใจเขาแหละเนอะ
Drink
น้ำอร่อยเพียบ! ทั้งเครื่องดื่มร้อน และ เย็น
ให้เลือกหลากหลายเอาใจทุกวัย เด็กวัยรุ่นไม่มีคาเฟอีน หรือผู้ใหญ่คอกาแฟ
และเน้นความสดชื่นก็มีหมด และเหมือนเดิมคือราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท
เราเลือกมาแนะนำวันนี้ 5 ตัวด้วยกัน มีอะไรบ้างนั้นอยู่ด้านล่างนี้
“Greentea Matcha” [70 THB] มัชชะเป็นเมนูฮิตของคนไทย
ถ้าคนชอบก็สั่งตลอด
แต่ถ้าไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลย
แต่เราชอบเลยแนะนำแก้วนี้อันแรก
เพราะชงดี หอมกลิ่นชาเขียว
ไปสืบมาพี่เขาบอกว่าชงด้วยผงมัชชะแท้ เกรดพรีเมี่ยมนะจ้ะ
มิน่าละมันถึงเข้มข้นดีจัง
ส่วนครีมชีสนุ่มลิ้นเค็มหน่อย ๆ
มีผงชาเขียวโรยด้านบนและมีเหมือนเม็ดชีสในฟองนุ่ม ๆ ด้วย
ให้รสสัมผัสที่แจ่มเลย
แอบกระซิบว่า มันดีไม่แพ้สตาบัคเลยล่ะ
ที่สำคัญราคาก็น่ารักด้วย
เผลอดูดแปปเดียวหมดแก้ว
จนอยากสั่งอีกแก้ว แต่พอก่อนนน
ยังเหลืออีกหลายแก้วรอเราอยู่
อากาศแปรปรวณเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน อยากชวนมาจิบแก้วนี้ “Yuzu Soda” [70 THB]
เป็นเมนูพิเศษดีงามตรงส้มญี่ปุ่นยูซุที่มีวิตามินซีมากกว่ามะนาวถึง 3 เท่า
เอามาชงเติมน้ำแข็งใส่โซดาตามไป
เพิ่มความเปรี้ยวเน้นเน้นไปอีกด้วยเนื้อส้มยูซุส้มโปะด้านบนให้พอเคี้ยวเล่น
สดชื่น เปรี้ยวอมหวาน คือกลิ่นของส้มยูซุจะมีเอกลักษณ์บางคนก็ว่าหอมบางคนก็ว่าฉุน แต่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ทั้งเรื่องความหอมสดชื่นรสชาติเปรี้ยวอมหวานแถมยังมีสรรพคุณรอบตัวอีกเพียบ
แถมทานคู่กับเมนูเค้ก หรือของคาว ก็ลงตัว
ถัดมาเป็นเครื่อมดื่มโปรดติดอันดับต้นๆ ของเราเลยก็ว่าได้ นั่นคือ
“Strawberry Yogurt Smoothie” [85 THB]
เพราะเราชอบกินผลไม้ที่เปรี้ยวมาก
อย่างสตอเบอรี่นี่ก็ชอบมาก
แต่ซื้อกินผลสดมันแพง ทางเลือกที่ดีแถมกินได้ไม่เบื่อ
ก็คือน้ำปั่นกับโยเกิร์ตเนี้ยะแหละ เวิร์คมาก!
และร้านนี้เขาทำแบบไม่หวานเจี๊ยบ ซึ่งคือดีงาม รสนุ่มนวล มีรสชาติของโยเกิร์ตและรสชาติของสตรอเบอรี่อยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ใครที่ชอบทั้งโยเกิร์ตและชอบทั้งสตรอเบอรี่
น่าจะชอบเมนูนี้แน่นอน
เข้าสู่เครื่องดื่มด้านมีคาเฟอีน
สำหรับคนต้องการความตื่นตัว และไม่งัวเงียบ้าง
“Caramel Macchiato” [85 THB]
ตัวนี้สูตรปกติค่อนข้างหวาน
เพราะจากคาราเมลด้วย
หากใครอยากได้หวานน้อยแนะนำให้บอกพนักงานได้
เพื่อให้ได้เลเวลความหวานตรงความต้องการของแต่ละคนพอดี
แต่เขาชงหอมกาแฟ
และได้รสชาติมันๆ จากนมสดแท้
ตัวสุดท้ายเมนูยอดฮิตขายดิบขายดีประจำร้านเลยสำหรับน้องวัยรุ่นมาก็มักจะสั่งเมนูนี้
“Cocoa + Whip” [60 THB]
โกโก้เย็นเพิ่มดิปราดซาสชอคโกแลต ซึ่งเราก็ชอบนะ
เพราะมันมีส่วนผสมของคาเฟ่อีนแฝงอยู่
การรับประทานโกโก้ที่ถูกต้องจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ
เพราะโกโก้มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ยิ่งเช้าไหนที่ง่วงเราจะจัดโกโก้เย็น 1 แก้ว
ดีดได้ทั้งวันยันเย็น แต่กินกาแฟแล้วจะตาค้างเกินไปอยู่ได้ยันโต้รุ่งเลย
ด้านรสชาติเข้มข้น มีขมนิดนิดให้ติดลิ้น
ส่วนตัวชอบโกโก้ร้านนี้ติดขมเล็ก ๆ เพราะรู้สึกอร่อยและได้อรรถรสดี
ส่วนใครอยากเลือกทานเป็นน้ำเปล่า ทานร้านก็มีขายขวดละ 20 THB
เป็นน้ำดื่มขวดดีไซน์เองจากทานร้าน No.1 Cafe สวยแปลกตามาก
แอบเอาไปแช่ในตู้เย็นที่ออฟฟิศ
แม่บ้านทักว่าซื้อมาจากไหน
ขวดสวยดีจัง อยากได้บ้าง
ทุกวันนี้เก็บทำความสะอาดเอาไว้ใช้ซ้ำ
ตอนไปวิ่งออกกำลังกาย
แทนซื้อน้ำขวดใหม่ทุกครั้งหลังวิ่งแล้ว
Appetizers
ด้านเมนูอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อย
ก็เด็ดเหมือนกัน
เพราะทำสดใหม่กันทุกเมนูที่หลังร้านกันเลยทีเดียว
ใครไปแนะนำให้ห้ามพลาดเมนู
“Fish Ring” [69 THB]
เพราะเราลองแล้วติดใจม้าก! อร่อย หนึบหนับ
เป็นเนื้อปลาชุบแป้งทอดเป็นวงขนาดหยิบเข้าปากกำลังดี
มาพร้อมกับซอสดิป 2 รส คือ ซอสมะเขือเทศ และซอสมันม่วง
แปลกดีค่ะรสออกหวานครีมๆ แต่อยากให้ได้กลิ่นของมันม่วงชัดกว่านี้จะสมบูรณ์แบบ
และที่น่าสรรเสริญคือเขาทอดได้ดีงาม คือ กรอบนอกนุ่มใน
ขนาดเราวางทิ้งไว้สักพักเพราะมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศร้าน
และอร่อยกับเค้กเมนูอื่น กลับมากินเจ้า Fish Ring ทีหลังแล้ว
ก็ยังคงความกรอบนุ่มได้ดีเลย รักเมนูนี้มาก ♡
ตัวนี้ก็เหมาะสำหรับคนหิวโซ ใครรีบตอนเช้าไปเรียน
หรือไปทำงานแทบจะไม่ทันแล้วแต่ต้องการกินของอร่อย
หาง่ายใต้บีทีเอสบางนา แนะนำให้สั่งเมนูนี้ “Craffle” [75 THB]
มันคือลูกครึ่งผสมระหว่าง ‘ครัวซองค์’ + ‘วัฟเฟิล’
ตอนแรกคิดว่ามันจะเข้ากันไหมนะ
แต่ผิดคาดเพราะแพ้กลิ่นหอมเตะจมูก
เพราะอบสุกกรอบกำลังดี ทานคนเดียวหมด 2 ชิ้น ไม่มีเลี่ยน
เขามีให้เลือก 3 ไส้ คือ แฮมชีส , ชอคโกแลต และผักโขมอบชีส
ตอนนั้นเราลองชิมใส้แฮมชีส กัดแล้วได้เนื้อฟีลลิ่งของครัวซองค์
แต่รูปลักษณ์ภายนอกมันคือวัฟเฟิลใครชอบรสไหนไปลองโลด
ส่วนเชลฟ์ด้านหน้าจะเป็นโซนของ Bar Snack
มุมของอบกรอบธัญพืช ถั่วเหลือง เพื่อสุขภาพต่าง ๆ
ที่ขายดีสุด
จะเป็นคาราเมลป๊อปคอร์น ซื้อติดไม้ติดมือไปวางที่ไว้ที่ออฟฟิศ
รับรองหมดได้เวลาไม่ถึง 1 วันแน่นอน
เพราะลองมาแล้ว #คนหิว2018
นอกจากนี้นะคะปลายเดือนตุลาคมนี้ 2018
ทางร้านจะเพิ่มเมนูอาหารคาวแบบจริงจังขึ้นด้วย เช่น สปาเก็ตตี้ ทำนองนี้
ลองไปติดตามกันดูในเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/no.1cafebangna
Location
ร้านอยู่ติดสถานีบีทีเอสบางนา (Bangna Station) ทางออก 2
แล้วเดินย้อนลงไปฝั่งสมุทรปราการ แต่แนะนำให้ลงลิฟท์มาจะเจอพอดี ไม่งง ไม่หลง
ร้านอยู่ติดกับกำแพงรั้วของบริษัทแลคตาซอยเลยค่ะ แต่อยู่
ฝั่งตรงข้ามกรมอุตุนิยมวิทยานะคะ จำไว้ให้ดี
ใครขับรถมา ก็ไปจอดรถได้ 3 ที่ขึ้นอยู่กับว่าขับมาทางไหน
1. ขับจากสี่แยกบางนา จอดที่ อาคารภิรัช แนะนำจอด B1 ใกล้บันไดเลื่อน
ค่าบริการชั่วโมงละ 30 THB และสามารถเดินขึ้นบันไดเลื่อนตามป้ายสถานี BTS บางนา
แล้วลงลิฟต์ถึงหน้าร้านเลย ระยะทางประมาณ 200 เมต
2. ไบเทคบางนา และเดินข้ามมายัง Sky Walk ของบีทีเอส ออกฝั่งประตู 2
3. ขับมาจากฝั่งสำโรง จอดได้ที่ The Coast Bangkok ก็ได้ค่ะ เขาให้จอดฟรี 2 ชม. ไม่ต้องประทับตรา แล้วเดินมาที่ร้าน
หมายเหตุ : เป็นการแนะนำจุดใกล้เคียงที่มีที่จอดรถเท่านั้น ไม่ใช่ บริการจากทางร้านนะคะ
ทางร้านมีบริการจัดส่ง Delivery ด้วยค่ะ ผ่านทาง Lineman
นอกจากยังรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่อีกด้วย ข้อมูลเชิงลึก
แนะนำโทรไปถามก่อนจะดีกว่า
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 090-961-4415 ค่ะ
เวลาเปิดปิด
Mon – Sat : 06.30 – 18.30 น.
Sun : 08.30 – 19.30 น.
ที่สำคัญที่อยากให้ไปรีบลองนั่งร้าน ชิมเค้ก จิบน้ำ กันไวไว
เพราะราคาเมนูทุกรายการเป็นราคาโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านใหม่
ต้อนรับนักชิม Cafe Hopper ทั้งหลายค่ะ ภายในเดือน มกราคม 2019 นี้
จะถูกปรับราคาขึ้นเล็กน้อย ประมาณ 5 บาทต่อเมนูค่ะ
รีบๆ ไปกัน 🙂
Be First to Comment